fbpx

ปคม. ส่งฟ้องเพิ่ม 10 ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ

กรุงเทพฯ 15 ก.ค.- ปคม. ส่งฟ้องเพิ่ม 10 ผตห. ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมสำนวน ให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง ในคดีแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ


พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสำนวน ใน คดีอุ้มบุญข้ามชาติ จำนวน 10 คน ประกอบด้วย แพทย์เฉพาะทางสูตินารีแพทย์ รับจ้างทำหน้าที่ผสมเทียม ด้วยการนำน้ำเชื่ออสุจิฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกของหญิงรับจ้างตั้งครรภ์ จำนวน 5 ราย / นักวิทยศาสตร์หญิง 1 ราย ทำหน้าที่ผสมไข่ของพริตตี้สาวหน้าตาดีที่ยอมขายให้แก๊งอุ้มบุญ นำไปผสมกับเชื้ออสุจิ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ขายน้ำเชื่อฯ ให้แก๊งอุ้มบุญ / นายหน้า(เอเย่นต์)ทำหน้าที่ติดต่อจัดหาผู้หญิงรับจ้างตั้งครรภ์ มาเป็นแม่อุ้มบุญ อีก  4 ราย ส่งให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6  เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา  สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า ร่วมกันซื้อ เสนอซื้อ ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่ง อสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาอาศัยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือ พ.ร.บ.อุ้มบุญ มีผลบังคับใช้เมื่อปี พ.ศ.2558 

ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการสูงสุด เปิด เผยว่า ทางสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 จะรับเรื่องเพื่อเสนอต่อให้อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาสั่งคดี และส่งกลับมายังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 ต่อไป เนื่องจากเป็นคดีที่มีการกระทำความผิดทั้งในและนอกราชอาณาจักร  ผู้มีอำนาจพิจารณาคืออัยการสูงสุด ซึ่งคดีนี้ได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาส่วนใหญ่ที่ร่วมกระทำความผิดให้กับพนักงานอัยการไปก่อนหน้านี้แล้ว


สำหรับขบวนการ”อุ้มบุญ” แก๊งนายจ้าวหราน มี 23 คน เป็นกลุ่มที่เป็นผู้จ้าง และกลุ่มหญิงสาวที่รับจ้าง ส่วนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ผู้ต้องหารวม 9 คน คดีนี้ขยายผลมาจากการที่ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ตำรวจ ปคม.เปิดปฏิบัติการ “อุ้มบุญ” หรือ การรับจ้างตั้งครรภ์ที่มีนายทุนชาวจีนว่าจ้างผู้หญิงไทยอุ้มท้อง จำนวน 10 จุด เป้าหมาย 10 ราย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยเข้าตรวจค้นบ้านหรูหลังหนึ่ง บริเวณถนนนาคนิวาส แขวงและเขตลาดพร้าว พบทารกเพศชายอายุประมาณ 30 วัน กับหญิงสาว 7 คนที่รับจ้างตั้งครรภ์ โดยทั้ง 7 คนได้รับการฝังไข่แล้ว พร้อมกันนี้ยังจับกุมนายจ้าว หราน นายทุนชาวจีน และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา มาสอบสวนและขยายผลจับ ผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ 13 คน เป็นกลุ่มผู้รับจ้างตั้งครรภ์ 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มนายจ้าว หราน 5 คน ในจังหวัดหนองคาย ส่วนอีก 7 คน พบในการตรวจค้นบ้านพักย่านลาดพร้าว กลุ่มที่ 2 พบแม่อุ้มบุญในจังหวัดปทุมธานี 8 คน และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่เพิ่งดำเนินคดีมีแม่อุ้มบุญ 1 คน และผู้เกี่ยวข้อง 2 คน รวมแล้วมีผู้ต้องหา 23 คน ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์อีก 9 คน ก็ได้ถูกนำตัวส่งฟ้องเป็นกลุ่มสุดท้ายในคดีนี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย