นายกฯระบุมีสิทธิพิเศษแต่ต้องปฏิบัติตามกติกา

เมืองทองธานี 15 ก.ค.-นายกฯเปิดประชุมสมัชชาโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนายั่งยืน ต้องทำให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น ยอมรับเหนื่อย-เครียด แต่ติดตลกเจอเครื่องบินอียิปต์ชน ยันสิทธิพิเศษคือเข้าได้แต่ต้องปฏิบัติตามกติกา ขอเชื่อมั่นระบบสาธารณสุข

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชา “BCG : โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมเป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือ “โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG โมเดล) สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและสถาบันการเงิน จำนวน 18 หน่วยงาน สนับสนุนการลงทุน 40,000 ล้านบาท และมีผู้ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 50,000 คน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำคือค้นหาศักยภาพของประเทศให้พบ เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ให้เต็มศักยภาพ หวังว่าโครงการนี้จะนำพาประเทศไปสู่การเจริญเติบโตภายในประเทศ ดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องขยะ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะได้รับฟังให้เกิดการมีส่วนร่วม เพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งการทำงานต้องแยกรายละเอียดที่มีหลายกลุ่ม ขณะที่การทำการเกษตรวันนี้มีปัญหาคือใช้พื้นที่มาก แต่มีผลผลิตและรายได้น้อย ทั้งนี้ การขยายพื้นที่ไม่ได้ทำให้เกิดผลผลิตมาก เพราะยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำ ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับน้ำ รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนบริหารจัดการและต้องพยายามนำน้ำใต้ดินมาใช้ 

“การทำงานของรัฐบาลแบบ new normal เป็นการขับเคลื่อนการบริหารในลักษณะองค์รวม ซึ่งปัจจุบันมีความเป็นห่วงประชาชนในยุคเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่บางคนอาจเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ส่วนราชการต้องทำให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีให้มากขึ้นด้วย พร้อมกันนี้จะเร่งติดตามการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันพัฒนาทุกพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถิติรายได้น้อย ให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น”  นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า เห็นใจเจ้าหน้าที่และบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานมายาวนานหลายเดือน ทุกคนต้องช่วยกันลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยความเข้าใจและต้องให้ความร่วมมือ ยืนยันทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลยืนยันมาโดยตลอด 

“ช่วงนี้เหนื่อยทุกวัน เมื่อวานถูกเครื่องบินชน เป็นสายการบินของทหารอียิปต์ และกำลังแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งจะแก้ไขได้ ขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลเท่านั้น ยืนยันไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ คำว่าสิทธิพิเศษคืออนุญาตให้เข้ามาได้ แต่ต้องมีกติกา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วตามขั้นตอน แต่หลบหนีออกไปเที่ยว ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องกลับมาวางระบบการดูแลให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายหลังโควิด-19 คือร่วมกันสร้างชาติ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมา ให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และหวังให้การลงนามครั้งนี้ นำไปสู่ผลที่เป็นรูปธรรม ขอให้ทุกคนทำงานแต่ละด้านอย่างต่อเนื่อง ไม่เร่งรีบเกินไป และเชื่อมั่นว่าศักยภาพของทุกคนจะสามารถยกระดับการพัฒนาแต่ละด้านของประเทศได้  ขณะที่วันนี้สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่มองว่าได้สร้างโอกาสให้กับไทยในการย้ำถึงการเป็นครัวของโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

“รัฐบาลเตรียมพิจารณาโครงการและแผนงานไว้แล้ว ส่วนเรื่องการผ่อนปรนว่า หากทำเร็วเกินไปก็จะเกิดปัญหาบางส่วนได้ เช่นการรักษาระเบียบ เพราะสิ่งสำคัญที่สุด ทุกอย่างอยู่ที่คน ที่ต้องร่วมมือกัน ระเบียบเป็นสิ่งที่เขียนไว้เท่านั้น ทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง และทบทวนว่ารายได้ที่ไม่เพียงพอ เงินเดือนไม่พอ ดื่มเหล้ามากน้อยแค่ไหน หรือซื้อหวยมากไปหรือไม่ ขณะที่สื่อฯ ชอบออกข่าวทะเบียนรถนายกฯ ว่านั่งเบอร์อะไร ซึ่งผมก็นั่งรถเบอร์เดิม แต่ผมก็เห็นใจเพราะหลายคนยากจน จึงมีความหวังและเป็นความสุขของคนจน ยืนยันว่าไม่ได้ว่าใคร และไม่ได้ดูถูกคนจน ผมรักคนจนที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเครียดทุกวัน เพราะมีเรื่องต้องคิดว่าจะทำอะไร จะช่วยคยไทยอย่างไร  ซึ่งทุกอย่างคนไทยต้องร่วมมือกัน และให้ทุกคนสัญญาว่าจะช่วยนำพาประเทศไทยไปข้างหน้า เพราะนายกรัฐมนตรีคนเดียวทำไม่ได้.-สำนักข่าวไทย