fbpx

“น้องบีม” วอนบริษัทรถบรรทุกคู่กรณีเข้ามาเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย

กทม. 14 ก.ค. – “น้องบีม” และแม่ เหยื่อรถบรรทุกพุ่งชน เมื่อปี 2548 วอนคู่กรณีบริษัทรถบรรทุกมาเจรจาค่าเสียหาย หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว


ว่าที่พันตรีสมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เนติบัณฑิตยสภา พร้อมคณะทำงานให้ความช่วยเหลือ น.ส.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือ น้องบีม และ น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ มารดา ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถบรรทุกพุ่งชนรถกระบะ เมื่อปี 2548 ร่วมกันแถลงผลสรุปการให้ความช่วยเหลือทางคดี


โดยว่าที่พันตรีสมบัติ ระบุว่า วานนี้ (13 ก.ค.) ศาลฎีกามีคำพิพากษาคดีแพ่งถึงที่สุด เรื่องการบังคับผลการชำระหนี้ สืบเนื่องจากศาลมีคำพิพากษาให้ชนะคดีอุบัติเหตุ แต่ต่อมานายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ อดีตทนายความของผู้เสียหาย ได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายเซ็นมอบอำนาจโดยมิชอบ เพื่อนำไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และนำเช็ค 29 ฉบับ เป็นเงินกว่า 3,050,000 บาท ไปขายลดคืนในราคา 900,000 บาท ซึ่งศาลฎีกาพิเคราะห์ว่า การกระทำดังกล่าวไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อลูกความ ส่อไปในทางทุจริต พิพากษาแก้ให้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามเดิม เป็นผลให้ผู้เสียหายสามารถดำเนินการบังคับคดี โดยการยึดทรัพย์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ต่อไปได้ กระบวนการต่อไป เนื่องจากในวันที่ศาลอ่านคำพิพากษา มีตัวแทนจำเลยอยู่ร่วมฟังอยู่แล้ว ดังนั้น ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการสืบทรัพย์ของจำเลยตามคำพิพากษา เพื่อออกหมายบังคับให้นำไปขายทอดตลาด นำเงินมาชดใช้ให้กับผู้เสียหาย ในกระบวนการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอ 30 วัน หลังศาลอ่านคำพิพากษา และจากข้อมูลทราบว่า ปัจจุบันบริษัทรถบรรทุกยังคงประกอบกิจการตามปกติ แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการติดตามสืบทรัพย์ และนำทรัพย์ไปขายทอดตลาด ระหว่างนี้จำเลยยังสามารถพูดคุยเจรจากับผู้เสียหายได้ ซึ่งทางเนติบัณฑิตยสภาจะจัดทนายความคอยให้คำปรึกษาต่อไป

น้องบีม ยอมรับว่า ที่ผ่านมาใช้ชีวิตยากลำบาก โดยพิการเดินไม่ได้ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ผ่านมาตอนนี้อายุ 17 ปี ช่วยมารดาหาเลี้ยงชีพด้วยการขายกาแฟ ทำกายภาพบำบัด และเรียน กศน. เพื่อลดภาระการดูแล ขณะที่อาการบาดเจ็บ แพทย์ระบุว่า ต้องทำกายภาพอย่างต่อเนื่อง มีอาการหลังคด ส่วนเรื่องความหวังที่จะกลับมาเดินได้อีกครั้ง ยังเป็นไปได้ หากหมั่นออกกำลังกาย จิตใจต้องเข้มแข็ง และต้องมีโชค ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว พร้อมคำขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ แม้จะเคยแอบรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะถูกทอดทิ้งอีกหรือไม่ และอยากฝากไปถึงบริษัทรถบรรทุก อยากให้เมตตาตนและมารดา เข้ามาเจรจาร่วมกัน

สำหรับคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้ชำระเงินให้กับมารดาน้องบีม เป็นเงินประมาณ 1,600,000 บาท และให้น้องบีมเป็นเงินกว่า 2,300,000 บาท เมื่อรวมกับโจทก์ที่เหลืออีก 3 คน รวมเป็นเงินที่ต้องชดใช้กว่า 4,950,000 บาท ไม่รวมค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

คพ.ห่วงน้ำปนเปื้อนกรด-ไอระเหย เหตุไฟไหม้โกดังภาชี

คพ. ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี พบน้ำปนเปื้อนกรดจำนวนมาก เสี่ยงไหลล้นออกสู่พื้นที่ด้านนอก รวมถึงพบไอระเหยสารคลอรีนและสารแอมโมเนียซึ่งอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

“พิมพ์ภัทรา” ขอโทษชาว อ.ภาชี เหตุสารเคมีรั่ว-ไฟไหม้

รมว.อุตสาหกรรม ขอโทษชาว อ.ภาชี เหตุสารเคมีรั่วไหลและไฟไหม้ รับปากจะเร่งกำจัดสารเคมีโดยเร็วที่สุด พร้อมบูรณาการความร่วมมือฝ่ายปกครองและความมั่นคง เฝ้าระวังเข้มงวด หวั่นผู้ก่อเหตุใช้ “ภาชีโมเดล” เป็นต้นแบบเผาทำลายหลักฐาน

เร่งสอบหลวงตาลองของขลัง ราดน้ำกรดใส่มือเด็ก เจ็บ 5 คน

ตำรวจและคณะสงฆ์เร่งสอบข้อเท็จจริงหลวงตาลองของ ให้เด็กกำพระผงราดน้ำกรด ทดสอบความขลัง บาดเจ็บ 5 คน เด็กบอกกำพระแน่น แต่ปวดแสบปวดร้อน