คาดยอดใช้ไฟฟ้าปีนี้อาจติดลบร้อยละ 8 กระทบแผนนำเข้าแอลเอ็นจี

กรุงเทพฯ 13 ก.ค. – ก.พลังงาน – กฟผ.ตามติดยอดใช้ไฟฟ้า หลังผลกระทบหนักจาก โควิด-19 อาจจะติดลบตามจีดีพีที่แบงก์ชาติคาด หดตัวร้อยละ 8.1 กระทบแผนนำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจร ด้าน บี.กริม มั่นใจแผนเสรีก๊าซไม่กระทบตามปัญหาการเมือง



นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และโฆษก กฟผ. กล่าวว่า ในขณะนี้ กฟผ.ติดตามสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งพบว่า ยอดการใช้ได้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโรค โควิด-19 โดยเดือนพฤษภาคมลดลงต่ำที่สุดที่ประมาณติดลบร้อยละ 10 เดือนเมษายนติดลบร้อยละ 9 ส่วนเดือนมิถุนายนเริ่มคลายล็อกดาวน์ยอดใช้ได้กลับมาเพิ่มขึ้น แต่ยังคงติดลบราวร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปกติแล้วยอดการใช้ไฟฟ้าของประเทศ จะเทียบเท่า ยอดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น หากเศรษฐกิจของประเทศ มีอัตราติดลบร้อยละ 8.1 ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ ดังนั้น ก็มีโอกาสที่ ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศปีนี้จะติดลบร้อยละ 8.1 เท่ากัน


“หากความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทย เท่ากับจีดีพีปีนี้ที่อาจติดลบร้อยละ 8.1 ดังนั้น ก็ประเมินว่า ไฟฟ้าสำรองของประเทศ คงจะเพิ่มจากร้อยละ 35 เป็นร้อยละ 40 ซึ่งภาพรวมก็ต้องวางแผนว่าจะหยุดเดินโรงไฟฟ้าประเภทต้นทุนสูงในส่วนของ Merit order ซึ่งมีทั้งของ กฟผ.และเอกชน ส่วนโรงไฟฟ้าที่ต้องเดินก่อนก็ต้องเป็นไปตามสัญญา must take , must run”นายพัฒนา กล่าว

นายพัฒนา กล่าวว่า จากความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง ก็ทำให้กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์แบบวันต่อวัน เพราะจะเกี่ยวข้องกับนโยบายการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี ) แบบราคาตลาดจร(สปอต) ซึ่งในส่วนของ  กฟผ.ก็ได้ขออนุมัตินำเข้าเพิ่มเติม ในขณะที่ บมจ. ปตท.ขอนำเข้าปีนี้ 11 ลำ และยังมี 3 เอกชน เตรียมพร้อมนำเข้า เพราะเมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงต่ำกว่าแผน หากนำเข้าแอลเอ็นจีราคาสปอต เข้ามามาก ก็จะส่งผลกระทบต่อก๊าซสัญญาตลาดรวม (POOL GAS ) หากเหลือใช้ก็จะเกิดปัญหาต่อ สัญญาไม่ใช้ก็ต้องจ่าย TAKE OR PAY  เป็นภาระต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า แม้ว่าการนำเข้าราคาสปอต จะเป็นผลดีต่อค่าไฟฟ้าในปีนี้เพราะต้นทุนแอลเอ็นจีราคาตลาดจรต่ำก็ตาม ซึ่งทางกระทรวงพลังงาน กำลังพิจารณาภาพรวมอย่างรอบคอบ ดังนั้น ในปีนี้ กฟผ.จะได้นำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มเติมจากที่นำเข้ามาแล้ว 2 ลำหรือไม่นั้น ก็คงจะต้อง ดูผลกระทบจากโควิด-19 เป็นสำคัญ 


นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาทางการเมือง ซึ่ง กลุ่ม 4 ยอดกุมาร โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงพลังงาน เป็นหนึ่งใน 4 ที่ ลาออกจากพลังประชารัฐ นั้น บริษัทฯไม่มีความกังวลว่าจะทำให้นโยบายส่งเสริมการนำเข้าแอลเอ็นจีสะดุด เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลตั้งแต่ต้น มีกฎระเบียบต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งการชะลอนำเข้า LNG นั้น อาจรอความชัดเจนเรื่องการตั้งหน่วยงานเข้ามาดูแลระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ(TSO) ของ ปตท.

ทั้งนี้  BGRIM ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แล้วในปริมาณ 6.5 แสนตันต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับทางผู้ผลิตและจำหน่ายแอลเอ็นจีระดับโลกกว่า 20 ราย คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้ และมองว่าเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ หากนำเข้า LNG ราคาถูกก็จะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลง และจะสามารถช่วยผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย