กสศ.10 ก.ค..-กสศ.ขยายความร่วมมือท้องถิ่น ลุยช่วยทุนเสมอภาคปีละ 3,000 บาทแก่นร.ยากจนพิเศษสังกัด รร.อปท.ชั้นอนุบาล-ม.3 ครอบคลุม 76 จังหวัด หวังแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เร่งรัดคัดกรองนักเรียนยากจนไม่ให้ตกหล่นภายในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวในการประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข ประจำภาคเรียนที่1/2563 ให้แก่ นักเรียนยากจนพิเศษ (นักเรียนทุนเสมอภาค) ในสังกัดโรงเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านระบบ Teleconferenceว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศมีนักเรียนชั้นอนุบาล–มัธยมศึกษาตอนต้น รวมกว่า 9 แสนคน ที่ผ่านมา อปท.ได้ให้การช่วยเหลือเด็กที่มีความยากจนจากการของบส่วนกลางสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายปีละ1,000 บาทต่อคนต่อปี แต่ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นการที่ กสศ. เข้ามาช่วยสมทบงบประมาณช่วยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มอีกปีละ 3,000 บาท ถือเป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้นักเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขสำหรับนักเรียนทุนเสมอภาคไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษาอย่างสูงสุด โดยปีการศึกษา 2562 ที่ผ่านมาได้ดำเนินการนำร่องกับสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใน 10 จังหวัด และในปีการศึกษา 2563 นี้จะขยายให้ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เรื่องที่ กสศ.ทำจะเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใหญ่ช่วยนักเรียนได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้นักเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสถานะเป็นเด็กยากจนพิเศษเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้ปกครองขาดแคลนรายได้จำนวนมาก
ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า โรงเรียนในสังกัด อปท.เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญและเป็นภารกิจที่ กสศ.จะเข้าไปช่วยเหลืออยู่แล้ว โดยในปี 2563 กสศ. ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ การพิจารณาเงินอุดหนุนช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษ เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 คืออุปสรรคที่ส่งผลต่อค่าเดินทางและค่าครองชีพ กสศ.อาจต้องพิจารณาความช่วยเหลือเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2563 กสศ.สามารถจัดงบให้เด็กยากจนพิเศษในสังกัด อปท.กว่า 30,000 คน แต่หากมีนักเรียนยากจนพิเศษที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองมากกว่านี้ทาง กสศ. ก็จะประสานหาช่องทางจัดสรรงบประมาณจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติมตามสภาพจริง ขอให้ อปท.และครูกรอกข้อมูลตามสภาพจริงเข้ามาให้ได้มากที่สุด หากท้องถิ่นใดดำเนินการคัดกรองนักเรียนยากจนหรือยากจนพิเศษเข้ามาต่ำกว่าตามสภาพจริงในปีนี้ ย่อมมีผลกระทบต่อการตั้งงบประมาณของ กสศ. เพื่อสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวในปีต่อๆ ไปของท้องถิ่นได้
อย่างไรก็ตามในปีนี้ กสศ.ได้ร่วมมือกับธนาคารออมสิน และธกส. เปิดบัญชีพร้อมเพย์ เพื่อสะดวกต่อการส่งเงินช่วยเหลือเด็กได้อย่างรวดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยนักเรียนยากจนพิเศษทุกคนจะได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจำนวน 2,000 บาทในเทอม 1/2563 นี้ ซึ่งน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้มากพอสมควร จึงอยากเชิญชวนให้ทั้งผู้ปกครอง และโรงเรียนสังกัดท้องถิ่น ร่วมมือกันสำรวจและคัดกรองข้อมูลเข้ามาภายในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดังกล่าว การคัดกรองข้อมูลนักเรียนยากจนถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นฐานการทำงานสำคัญร่วมกับระหว่าง กสศ. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เด็กๆที่ยากจนที่สุดในประเทศได้มีโอกาสรับทุนการศึกษาจากกสศ.เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาในระดับสูงต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย