ชลบุรี 2 ก.ค. – เปิดประวัติ “บ้านสุขาวดี” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่พัทยา หลังเกิดเหตุไฟไหม้อาคารพุทธบารมี ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความชัดเจน
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ “บ้านสุขาวดี” www.sukhawadee.com ได้เปิดเผยประวัติความเป็นมาของ “บ้านสุขาวดี” ว่า จากวิกฤติทางเศรษฐกิจ ต่างชาติได้ยึดกิจการของคนไทย เพื่อให้เห็นว่าคนไทยมีศักยภาพไม่แพ้ต่างชาติ ทำให้เกิดปาฏิหาริย์สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นศักดิ์ศรีของคนไทย
“บ้านสุขาวดี” เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2543 บนเนื้อที่ 12 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 129 ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางละมุง ประมาณ 1 กิโลเมตร มีชายหาดยาว 400 เมตร และปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 80 ไร่
“บ้านสุขาวดี” เกิดมาจากสติปัญญาและการทำงานเป็นทีมของผู้คนบนพื้นฐานของความรัก ความสามัคคี จึงทำให้งานที่ออกมามีคุณค่า สง่างาม และมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ประกอบด้วยอาคารหลักๆ ดังนี้
1.อาคารพระแม่กวนอิม (Main building & Goddess of Mercy)
2.อาคารโดมพระ (Buddha tower)
3.ศาลหลักเมือง (Sukhawadee?s Pillar Shrine)
4.ความลับสวรรค์ (Yin – Yang Zone)
5.อาคารพุทธบารมี (Buddhabaramee/Convention Hall) เวทีเฉลิมพระเกียรติ (Royal Chalermprakiet stage)
6.โดมละหมาด (Salah Dome ) อาคารไอริสโซเฟีย (Airis Sophia?s souvenir shop )
7.สหฟาร์มสเตชั่น (Saha Farm Station)
8.จุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Saha Farm Kitchen & Restaurant)
9.อาคารสโมสร (Club House)
และ 10.อาคารสัจธรรม (Hall of Truth)
คำว่า “สุขาวดี” แปลว่า ดี ขาวดี สีของบ้านเป็นสีชมพูและฟ้า สีชมพูเป็นสีแห่งความรัก ดั่งที่ว่า “ที่ใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดย่อมไร้ผล” ฉะนั้นที่ใดก็ตามที่มีความรัก ความสามัคคี มีความกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่นั่นจะคุยกันแต่เรื่องดี คุยสิ่งสร้างสรรค์ และฟันธงได้เลยว่า ที่นั่นคือ ที่ที่ดี ที่เจริญรุ่งเรือง
นอกจากนี้ยังใช้ “คิวปิด” หรือเทพเจ้าแห่งความรักเป็นสัญลักษณ์ ส่วนสีฟ้าถือเป็นสีแห่งน้ำ น้ำเป็นสิ่งก่อเกิดสิ่งมีชีวิต แต่น้ำเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องศึกษา เพราะน้ำสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ทุกสถานะ
“บ้านสุขาวดี” เป็นของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริษัท สหฟาร์ม และในเครือ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนช่วงก่อนหน้านี้. – สำนักข่าวไทย