กรุงเทพฯ 1 ก.ค..-สสส. แนะชีวิตวิถีใหม่ ขยันขยับ ปรับวิถีชีวิตสุขภาวะด้วย “ยางยึด” เหตุโลกหลังวิกฤติ COVID-19 สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคนเข้าสู่ “ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Nomal” การดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงจึงเป็นอีกแนวทางใหม่ที่ควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะกล่าวว่า สสส.ในฐานะผู้สนับสนุนให้มีระบบการดูแลสุขภาวะที่ดีด้วยตัวเอง ร่วมมือกับพันธมิตรภาคีเครือข่ายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพของคนไทยในทุกระดับ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนด้วย”ชีวิตวิถีใหม่ ชีวิตสุขภาวะกิน ขยับ หลับสนิท เสริมเกราะภูมิคุ้มกัน ป้องตัวเองห่างไกลโรค และสามารถรับมือกับปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมทั้งโรคใหม่ๆที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ การปรับตัวนี้ ต้อง ขยันขยับ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อมีกิจกรรมทางกายเป็นแนวทางดูแลสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันห่างไกลโรคที่ดีได้ด้วยตัวเอง อาจเริ่มจากการมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง กิจกรรมที่เริ่มทำให้หัวใจเราเต้นแรง หายใจเร็วขึ้น เช่น เดินขึ้นบันได เดินเร็วหรือทำสวน หลังจากนั้นจึงปรับเปลี่ยนมาเป็นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรงหายใจหอบด้วยการออกกำลังกาย และไม่จำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์การออกกำลังกายที่มีราคาแพง และใช้สถานที่กว้างขวาง แต่อยู่ที่ความสม่ำแสมอในการปฏิบัติอย่างต่อนื่อง
สสส. จึงชวนทุกคนมาเริ่มตันการปรับตัวเข้าสู่”ชีวิตวิถีใหม่ วิถีชีวิตสุขภาวะ” ด้วยการใช้”ยางยืด” รัดถุงแกงที่มีอยู่ก้นครัวของทุกคน มาสร้างเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายโดยไม่ต้องซื้อหา แต่สามารถใช้ออกกำลังกายได้ทุกวลา ทุกสถานที่ พกพาได้สะดวก ซึ่งเป็นงานออกแบบและคิดค้นโดย ศาสตราจารย์ ดร. เจริญ กระบวนรัตน์ ภาควิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
การใช้ยางยืดมาทำเป็นอุปกรณ์เริ่มจากการใช้ยางยืดจำนวน 45 เส้น มาร้อยต่อกันเป็นลักษณะเหมือนข้อโซ่ ความยาวประมาณ 60 ข้อ หรือหากต้องการให้มีแรงดึงกลับในขณะที่ยางถูกยืดออกมีความหนืดเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้เราต้องออกแรงดึงมากขึ้น ก็เพิ่มจำนวนยางในข้อโซ่หลายๆ เส้น
อาจารย์ ณัฐนรี กระบวนรัตน์ โรงเรียนวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และผู้ทรงคุณวุฒิสสส. กล่าวว่า ยางยืดมีคุณสมบัติพิศษที่รียกว่า”ปฏิกริยาสะท้อนกลับ (Strech Refex)” หรือแรงดึงกลับ จากการถูกดึงให้ยืดออก เมื่อนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายจึงจัดอยู่ใน “การออกกำลังกายประเภทความต้านทาน (Resistance Exercise)” มีประโยชน์ในการบริหารร่างกายได้ทุกสัดส่วน ช่วยกระตุ้นระบบประสาทรับรู้ความรู้สึก (Sensor Nervous System) ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาและบำบัดรักษาระบบการทำงานของประสาทกล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ ข้อต่อและกระดูก ช่วยสร้างเสริมสุขภาพดี สามารถเป็นอุปกรณ์ขยับเหยียดยืดทุกชั่วโมง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบ่า ไหล่ จากการเพลิดเพลินกับการนั่งทำงานติดเก้าอี้เป็นเวลานาน รวมถึงคนที่ต้องยืนทำงานในท่าซ้ำๆ นานๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมทำลายสุขภาพ แถมการใช้ยางยืดยังช่วยลดความครียดจากการทำงานอีกด้วย
อาจารย์ ณัฐนรี กล่าวว่า การใช้ยางยืดในกิจกรรมทางกาย หรือการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และเอ็นข้อต่อ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้กระชับและป้องกันการเสื่อมสภาพ ทั้งยังป้องกันการเสื่อมสภาพของกระดูกเช่น ข้อเสื่อม กระดูกบาง กระดูกพรุน ลดอาการข้อติด ชะลอการเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อ
สำหรับผู้ที่ต้องการลดพุง การออกกำลังกายด้วยยางยืดก็เป็นคำตอบที่ดีเพราะช่วยเพิ่มอัตรา การเผาผลาญและลดไขมันในร่างกาย ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร รวมทั้งช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ ความมั่นคงในการเคลื่อนไหวเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนโลหิดไปยังกล้ามเนื้อที่ได้รับการบริหารอีกด้วยการออกกำลังกายด้วย “ยางยืด” ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขกาพ แต่อย่างไรก็ตามการมีสุขกาพที่ดี ไม่ได้เกิดจากการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว ต้องแน่ใจว่าได้ว่ากินอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง5หมู่ ดื่มน้ำสะอาด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และงดสูบบุหรี่ เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอยู่ตลอดเวลาป็นภูมิคุ้มกันต่อสู้โรค สนใจข้อมูลดูแลสุขภาพตัวเอง คลิก FB: สสส.(สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้งสริมสุขภาพ)
หรือ https:/www.thaihealh.o.th/Books/639/12%20ท่าบริหารร่างกายด้วยยางยืด.html เรียนรู้ 12 ท่าบริหารร่างกายด้วยยางยืด รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สงกรานต์ กันแก้ว 081-4552111.-สำนักข่าวไทย
