“วิษณุ” ยันไม่มีการยื่นเอกสารประวัติ ครม.ชุดใหม่

ทำเนียบฯ 25 มิ.ย.- “วิษณุ” ยันไม่มีการยื่นเอกสารประวัติครม.ชุดใหม่ ตามกระแสข่าว ย้ำอำนาจปรับ ครม. ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ไม่ขอตีความคำพูด “สมคิด” ส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ 
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี หลังมีการนำคำพูดของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุมีการตีกันไม่ให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า อำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำพูดของนายสมคิด วานนี้ก็หมายความเช่นนี้ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีการจับสัญญาณอะไรทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่มีการยื่นเอกสารประวัติคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตามที่มีกระแสข่าวออกมา
เมื่อถามว่ามีข่าวมีเอกสารลาออกจากตำแหน่งของ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีเอกสารตามที่มีรายงานข่าวออกมา และนายกรัฐมนตรีไม่เคยเอยเรื่องนี้กับตน ส่วนจะเอ่ยกับคนอื่นหรือไม่ ตนไม่ทราบ 
ต่อข้อถามว่านายสมคิด ออกมาพูดเหมือนเป็นการส่งสัญญานชัดเจน ว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า นายสมคิด อาจจะรำคาญสื่อที่ถามทุกวัน และอ่านจากหนังสือพิมพ์เอง และเมื่อสื่ออยากรู้ก็จะพูด และก็จบประโยคว่า ให้ลงไปตามที่พูดให้เหมือนทั้งหมด ส่วนจะส่งสัญญานอะไรหรือไม่ ให้ไปถามกับนายสมคิดเอง ซึ่งตนตีความด้านกฏหมาย ไม่ได้ตีความคำพูด 
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายสมคิดหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวการปรับ ครม.เกิดขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกันบ้าง ในฐานะเพื่อนฟูง ซึ่งสมัยนี้จะพูดคุยเรื่องอะไร ก็ไม่ฮิตเท่าเรื่องนี้ แต่เมื่อพูดคุยกันจบแล้ว ก็จบกันไป ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร  ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุ หากจะมีการปรับครม.จะอยู่ในช่วงเดือนกรกฏาคมนั้น นายวิษณุ กล่าวว่าไม่รู้เรื่องเลย 
ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณและการพูดคุยใด ๆ จากนายกรัฐมนตรี ส่วนโควต้าพรรคชาติพัฒนาจะยังอยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้พูดคุย รวมถึงที่นายสมคิด ออกมาพูดตีกันไม่ให้มีการปรับ ครม. ตนก็ไม่ทราบ เพราะนายกฯยังไม่พูดคุยอะไร.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ.-สำนักข่าวไทย

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี

กกต. เผยเลือกตั้งเทศบาล มีคำร้อง 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิด กม.

ประธาน กกต. เผยยอดคำร้อง “เลือกตั้งเทศบาล” เพิ่มเป็น 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ คาดรู้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 4 ทุ่ม