ไทยไลอ้อนแอร์-ไทยเวียตเจ็ททยอยเพิ่มเที่ยวบินในประเทศ

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – กรมท่าอากาศยานปลื้ม 2 สายการบิน ทยอยเพิ่มเที่ยวบิน เปิดเส้นทางใหม่ลงท่าอากาศยานในสังกัดหลังรัฐคลายล็อกระยะ 4


นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวถึงความพร้อมรับสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินและเปิดเส้นทางใหม่มายังท่าอากาศยานในสังกัด หลังรัฐบาลปลดล็อกระยะ 4 รองรับผู้โดยสารเริ่มเดินทางมากขึ้น ด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและจัดมาตรการเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัดในทุกท่าอากาศยาน โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เพิ่มเที่ยวบินมายังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชจากวันละ 1 เที่ยวบิน เป็นวันละ 2 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี จากวันละ 1 เที่ยวบิน เป็นวันละ 3 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานอุบลราชธานี จากเดิมให้บริการเฉพาะวันศุกร์และวันอาทิตย์ เป็นให้บริการทุกวัน และยังเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ ได้แก่ เส้นทางดอนเมือง – อุดรธานี วันละ 2 เที่ยวบิน เส้นทางดอนเมือง – ขอนแก่น วันละ 2 เที่ยวบิน เส้นทางดอนเมือง – กระบี่ วันละ 2 เที่ยวบิน และเส้นทางดอนเมือง – พิษณุโลก วันละ 1 เที่ยวบิน

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางบินใหม่สายการบินไทยเวียตเจ็ท แอร์ไลน์ ประกอบด้วย 1.เส้นทางไปกลับ สุวรรณภูมิ – อุดรธานี วันละ 2  เที่ยวบิน เริ่ม 1 กรกฎาคม 2563  2.เส้นทางไปกลับ เชียงราย – อุดรธานี วันละ 1  เที่ยวบิน เริ่ม 1 กรกฎาคม  2563  3.เส้นทางไปกลับ สุวรรณภูมิ – ขอนแก่น วันละ 2 เที่ยวบิน เริ่ม 30 กรกฎาคม 2563  4.เส้นทางไปกลับ สุวรรณภูมิ – นครศรีธรรมราช วันละ 1 เที่ยวบิน เริ่ม 6 สิงหาคม 2563   5.เส้นทางไปกลับ สุวรรณภูมิ – อุบลราชธานี วันละ 1 เที่ยวบิน เริ่ม 6 ตุลาคม 2563 และ 6.เส้นทางไปกลับ สุวรรณภูมิ – สุราษฎร์ธานี วันละ 1 เที่ยวบิน เริ่ม 4 พฤศจิกายน 2563


ทั้งนี้ ท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยานทุกแห่งมีความพร้อมรองรับการเพิ่มเที่ยวบิน และพร้อมรองรับผู้โดยสารที่กลับมาเดินทางโดยเครื่องบิน และใช้บริการท่าอากาศยานมากขึ้น โดย ทย.ยืนยันได้กำชับให้ทุกท่าอากาศยานยังคงมาตรการเข้ม เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก การจัดจุดพักคอยที่มีการเว้นระยะห่าง การให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานสแกนคิวอาร์โค้ดเช็คอิน – เช็คเอ้าท์ ที่แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ทุกคน การทำความสะอาดจุดที่สัมผัสบ่อยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกชั่วโมง การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารขาเข้า และบริเวณอาคารที่พักผู้โดยสารทุกวันหลังหมดเที่ยวบิน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ให้อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในแต่ละจุด  

ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานได้ประกาศขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานให้ความร่วมมือในมาตรการต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง