หวาดเสียว! ขับรถย้อนศรกว่า 3 กม.แต่ไม่มีใครทำอะไรได้?

ระนอง 13 มิ.ย.- พลเมืองดีร้อง! รถบรรทุก 10 ล้อขับย้อนศรบนถนนเพชรเกษมสายหลักขาเข้าตัวเมืองระนอง สร้างความหวาดเสียวกับผู้ใช้รถใช้ถนน



ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากประชาชนที่ขับรถในพื้นที่จังหวัดระนองว่าภาพหน้ากล้องรถยนต์สามารถจับภาพรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกนมขับรถย้อนศรบนถนนเพชรเกษมสายหลักขาเข้าตัวเมืองระนอง สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ที่ใช้รถที่ขับมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากจุดที่รถบรรทุก 10 ล้อบรรทุกนมดังกล่าวขับย้อนศรมา มีระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดที่จะกลับรถเข้าเส้นทางหลักที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเส้นขาออกจากจังหวัดระนอง พร้อมส่งภาพหน้ารถให้ผู้สื่อข่าวดู



เมื่อตรวจสอบภาพพบว่าเป็นเรื่องจริงตามที่ผู้หวังดีแจ้งมา และสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น.วันที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ระหว่างนั้นเจ้าของคลิปขับรถมาจากพื้นที่กม.30 เขตรอยต่อ อ.ละอุ่น-ระนอง เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่ตัวเมืองระนองหลังจากทำธุระเสร็จ ขับมาได้สักพักจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 570 ต.ทรายแดง อ.เมืองระนอง ตนจึงได้เปิดไฟเลี้ยวเพื่อทำการแซงรถยนต์กระบะที่ขับอยู่ด้านซ้าย แต่ขณะที่กำลังเร่งเครื่องแซงอยู่ทางด้านเลนขวา ก็ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อเห็นรถบรรทุก 10 ล้อ วิ่งย้อนศรมาอย่างหน้าตาเฉย จึงต้องเร่งเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อให้รถคันหลังได้เห็นเพื่อทำการหลบจากรถบรรทุก 10 ล้อที่วิ่งย้อนศรมา ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนน 4 ช่องทางการจราจร จากจุดที่พบรถบรรทุก 10 ล้อวิ่งย้อนศรมาก็ต้องใช้ระยะกว่าอีก 3 กิโลเมตร จะถึงจุดที่สามารถกลับรถเข้าสู่เส้นทางปกติ ตนคิดว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้ที่ขับมาอย่างถูกต้องอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้



จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตามหลักกฎหมายจะต้องดำเนินการอย่างไร ได้รับคำตอบว่าเรื่องนี้ต้องให้ขนส่งจังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบโดยตรง เพราะสามารถยกเลิกใบอนุญาตใบขับขี่หรือดำเนินการอื่นๆ ตามขั้นตอนกฎหมายของขนส่งได้ ซึ่งทางขนส่งต้องประสานบริษัทรถนมเจ้าของรถดังกล่าวเพื่อมาทำการสอบสวน เนื่องจากคลิปเห็นเลขทะเบียนรถชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นถือเป็นความปลอดภัยของผู้ที่ขับรถตามกฎหมายที่สามารถเรียนถึงสิ่งที่พบมาได้ ทั้งนี้ ต้องรอดูว่าขนส่งจะดำเนินการอย่างไรต่อไป


ด้าน ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ และการสื่อสาร กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ขออภัยผู้ใช้รถใช้ถนน และพิจารณาลงโทษขั้นสูงสุดให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานทันที และทางทีมงานฝ่ายขนส่งของบริษัทฯ ได้ดำเนินการประสานติดต่อไปยังขนส่งจังหวัด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย มีรายละเอียดว่า

ตามที่มีการแชร์คลิปวีดีโอในสื่อโซเชียลมีเดีย และมีการนำเสนอข่าวในสื่อโทรทัศน์ เรื่องรถบรรทุก 10 ล้อขับรถย้อนศรบนถนนเพชรเกษมสายหลัก ขาเข้าตัวเมืองระนอง จังหวัดระนอง สร้างความหวาดเสียวกับผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นภาพรถบรรทุกของบริษัทฯ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ ต้องขออภัยผู้ใช้รถใช้ถนน และชุมชนท้องถิ่นเป็นอย่างสูง  และขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในวันที่ 11 มิถุนายน 2563 เวลา 17.09 น. โดยผู้ขับรถคันดังกล่าว คือ นายสถาปนิค อาทิตย์  เป็นพนักงานขับรถของบริษัทฯ ขับรถเลขทะเบียน  86-4020 นฐ ได้กระทำผิดขับรถโดยประมาท ฝ่าฝืนกฎจราจร ขับรถย้อนศรมุ่งหน้าตัวเมืองระนอง ตรงบริเวณถนนหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลทรายแดง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ซึ่งบริษัทฯ ถือเป็นความผิดร้ายแรง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของบริษัทและผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน สำหรับกรณีนี้ ทางบริษัทฯ ได้พิจารณาลงโทษขั้นสูงสุดให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานทันที และทางทีมงานฝ่ายขนส่งของบริษัทฯ ได้ดำเนินการประสานติดต่อไปยังขนส่งจังหวัด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย


กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน และบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถของพนักงานภายในองค์กรอย่างยั่งยืน เพื่อลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุให้เหลือน้อยที่สุด หรือลดลงเป็นศูนย์ (Zero Accident)  โดยบริษัทฯ มีนโยบายให้พนักงานทุกคนที่ใช้รถของบริษัทฯ ตระหนักเรื่องความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่รถ และมีหน้าที่รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ด้วยการขับขี่รถอย่างมีสติ ระมัดระวัง ไม่ประมาท  และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด   .-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย