แปดชายฉกรรจ์มอบตัว หลังรุมทำร้ายนักข่าว

สมุทรปราการ 12 มิ.ย.-กลุ่ม 8 ชายฉกรรจ์ เข้ามอบตัว กรณีรุมทำร้ายนักข่าวช่องหนึ่งระหว่างคุยกับเพื่อนหน้าหอพักจนบาดเจ็บเย็บ 18 เข็ม ผู้ก่อเหตุอ้างเมาสุรา-ถูกมองกวนประสาทก่อน


นี่คือภาพวงจรปิดบริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ในซอยเทพารักษ์ 102 จังหวัดสมุทรปราการ บันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 11 มิ.ย.ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คนกำลังรุมทำร้ายผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งสนทนากับผู้สื่อข่าวพิเศษของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ประจำจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ที่ท้ายรถยนต์กระบะ ซึ่งจอดอยู่หน้าหอพัก จนชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์จะหันมาทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวด้วยเช่นกัน แม้แต่แฟนสาวของชายที่โดนทำร้ายจะเข้ามาห้ามปรามขัดขวางแต่ก็ถูกทำร่าย ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 3 คน 


ล่าสุดวันนี้ นายวรากร ใจดี อายุ 40 ปี ชายที่โดนรุมชกคนแรก เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย ขณะที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนที่ชื่อนายบัณฑิต ชวาลา อายุ 37 ปี เป็นผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ประจำจังหวัดสมุทรปราการ และกลุ่มผู้ก่อเหตุยังรุมทำร้ายผู้สื่อข่าวด้วย เพียงเพราะพยายามโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ไประงับเหตุ จนได้รับบาดเจ็บเย็บไป 18 เข็ม ส่วนตนและแฟนสาวมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย 

นายวรากร เผยว่าเมื่อปีก่อน  ตนเคยมีเรื่องบาดหมางกับเพื่อนในกลุ่มที่มาก่อเหตุ กระทั่งถูกบุกขึ้นไปล้อมห้องพัก ต่อมาทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุ เมื่อพบเห็นตนก็จะคอยพูดจาถากถางทุกครั้ง ซ้ำร้ายยังเคยถูกกรีดรถจนเสียหาย แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจเนื่องจากไม่อยากมีปัญหา และกลัวจะไม่ปลอดภัย กระทั่งมาถูกรุมทำร้าย 

ส่วนนายบัณฑิต ตนยืนยันว่าได้มีส่วนเกี่ยวของกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับเพื่อนได้นั่งเล่นกันอยู่หน้าอพาร์ทเม้น ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 8 คน เดินเข้ามาถามชื่อนายวรากร ระหว่างนั้นนายวรากร ก็ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนทั้งหมดจะเปิดฉากรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้น ภรรยาของนายวรากร ได้เอาตัวเข้าไปป้องสามี จนทำให้ถูกลูกหลง เมื่อตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้เดินเลี่ยงออกมาจากกลุ่มดังกล่าว เพื่อที่จะมาโทรแจ้งตำรวจมาระงับเหตุและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือ แต่ระหว่างนั้นชายสวมเสื้อสีน้ำเงินหนึ่งในกลุ่มที่มาก่อเหตุ ได้เข้ามาสอบถามว่าโทรหาใคร จู่ๆก็สาวหมัดใส่ตนเอง โดยมีอีกหลายคนคอยยืนคุมเชิง จึงทำให้มีใครกล้าเข้ามาห้าม แถมข่มขู่ตนกับเพื่อนว่า ถ้าจะมีปัญหาระวังจะพักอยู่ที่นี่ไม่ได้ ก่อนทั้งหมดจะแยกย้ายกันหลบหนี


ขณะเดียวกันผู้ก่อเหตุ จำนวน 8 คน คือ 1.นายชาญชัย หรือเบส อุดมผล อายุ 32 ปี ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักข่าว  2. นาย โฉนด  หังสวนัส อายุ 46 ปี, 3. นายวรชัย เกตุศิริ อายุ 34 ปี, 4.วิษณุ  หังสวนัส  อายุ 41 ปี, 5. นาย จรุงกิจ ศักดิ์สมพงษ์ อายุ 35 ปี 6. นายภาคภูมิ หังสวนัส อายุ 41 ปี, 7. นายชัยวัฒนา รุ่งแหล่ม  อายุ 35 ปี และ นายศราวุฒิ ดำแพร  อายุ 38 ปี เดินทางไปที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อเข้ามอบตัว กับตำรวจ โดยนายชาญชัย หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ยอมรับผิดและยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมกับยอมรับว่าตนเองเป็นคนก่อเหตุจริง และอ้างว่าสาเหตุ ไปชกต่อยนายบัณฑิต เพราะเห็นนายบัณฑิตยืนอยู่กับนายวรากร ที่เคยมีปัญหากับเพื่อนตน ขณะที่ก่อเหตุนั้นเห็นว่านายบัณฑิต ได้ยืนมองหน้าตนในลักษณะกวน ประกอบกับอยู่ในอาการเมาสุรา จึงไม่ได้ยั้งคิด ทั้งนี้พวกตนยอมรับผิดที่พร้อมกับที่จะชดใช้และเยียวยา และเจรจาเพื่อหาทางออกเรื่องที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายบัณฑิต และผู้เสียหายอีกสองราย ยืนยันว่า ไม่ขอเจรจาและยอมความใด ๆ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อีกทั้งยังมีการข่มขู่ความปลอดภัยของตนไว้ด้วย เบื้องเบื้องทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งหมดว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]