โควิด-19 ป่วยใหม่ เสียชีวิต วันนี้เป็นศูนย์

สธ.11 มิ.ย.–ศบค.เผยวันนี้ไม่พบผู้ป่วยและเสียชีวิต ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่พบการป่วยติดเชื้อกลับมาจากต่างประเทศ เป็นกลุ่มนักศึกษาและพนักงานนวด ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบบราซิล กลายเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 



พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า วันนี้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่ยอดผู้ป่วยรักษาหาย มีรวม 6 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมดของไทยอยู่ที่ 3,125 คน แยกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 คน พบจาก state quarantine 188 คน หายป่วยสะสม 2,987 คนแล้ว ยังเหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 80 คน  ส่วนยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 58 คน  


อย่างไรก็ตามแม้วันนี้จะไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม  แต่ประชาชนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด  ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆและการรักษาระยะห่างทางสังคม  

ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทย พบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นชายมากกว่าหญิง พื้นที่ที่พบป่วยมากที่สุด ยังคงเป็นกรุงเทพฯ–นนทบุรี รองลงมาคือ ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยคือ 39 ปี เมื่อดูเฉพาะข้อมูลช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เข้าอยู่ใน state quarantine 100% หากจำแนกผู้ป่วยรายอาชีพจะพบกลุ่มที่ป่วยมากสุด คือ นักเรียนนักศึกษาที่กลับมาจากต่างประเทศ รองลงมาคือพนักงานนวด และลูกจ้างทั่วไป เมื่อจำแนกตามประเทศต้นทางที่คนกลับมาแล้วพบป่วยมากที่สุด คือ ประเทศคูเวต รองลงมาคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย อินเดีย และปากีสถาน 

พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกวันนี้พบผู้ป่วยสะสมรวม 7,452,809 ราย เสียชีวิตทั่วโลกรวม 418,919 คน  โดยประเทศบราซิล กลายเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กลายเป็นประเทศที่พบผู้ป่วยเพิ่มมากที่สุดของโลกเฉลี่ย  30,000 คนต่อวันและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา ที่พบผู้ป่วยเพิ่มต่อวันกว่า 20,000 คน แต่มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย 


ขณะที่สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย ประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมมากสุด คืออินเดีย 287,155 คน รองลงมาคือปากีสถาน 113,702 คน และบังคลาเทศ 72,865 คน ซึ่งจากการที่ประเทศอินเดีย กลับมาพบผู้ป่วยกว่า 10,000 คน ต่อวัน ทำให้ต้องจับตาประเทศอินเดียต่อไป เช่นเดียวกับปากีสถาน บังกลาเทศ ที่อยู่ใกล้กับประเทศ ซึ่งยังคงมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง