“มายด์” ยังปากแข็ง โบ้ยเพื่อนแทงแฟนหนุ่มดับ

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย.-ตร.สภ.เมืองขอนแก่น รับตัว “มายด์ สาวสอง” กลับไปดำเนินคดี หลังก่อเหตุใช้มีดแทงแฟนหนุ่มเสียชีวิตในห้องพัก จ.ขอนแก่น แต่ไปไม่รอด ถูกจับได้ขณะหลบหนีมากบดานในกรุงเทพฯ เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ อ้างเพื่อนแทง


พันตำรวจเอกมีชัย กำเนิดพรหม รองผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงกรณีการจับกุมนายธันพิชา รอดหนองเข็ง หรือมายด์ อายุ 28 ปี หลังก่อเหตุ ใช้มีดแทงนายมานพ อำท้าว อายุ 27 ปี แฟนหนุ่ม จนเสียชีวิตภายในห้องเช่า ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยตำรวจกองปราบ จับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  

ทั้งนี้การสืบสวน พบว่าหลังก่อเหตุนายธันพิชา ได้หลบหนีผ่านหลายจังหวัดทางภาคอีสาน โดยคืนแรกเปิดห้องพักที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนจะเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก โดยใช้เลขบัตรประจำตัวปลอมแสดงตัว จากนั้นเดินทางโดยรถโดยสารไปที่จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งชื่อสกุลปลอมเพื่อเข้าพักในโรงแรม ส่วนคืนที่สองพักที่สวนสาธารณะ และเดินทางโดยรถไฟมาที่กรุงเทพมหานคร และมีแผนจะเดินทางไปอีกหลายจังหวัด  กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม โดยเงินที่ใช้หลบหนีเป็นเงินจากการขายทอง 2 สลึง ที่ติดตัวไปจนกระทั่งเงินเริ่มหมด


จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาเริ่มมีท่าทีอ่อนลง โดยให้การภาคเสธอ้างว่าวันเกิดเหตุมีเพื่อนของแฟนหนุ่มมาที่ห้องพักแล้วตนเองก็ออกไปข้างนอก จึงคาดว่าเพื่อนผู้ตายเป็นคนแทง แต่จากหลักฐานที่ปรากฏทั้งร่องรอยดีเอ็นเอและภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกวินาทีหลังเกิดเหตุในช่วงเวลา 04:30 นาฬิกา ของวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ต้องหาหอบหิ้วถุงดำ 2 ถุง มีกระเป๋าอีก 1 ใบ อยู่ที่ด้านหน้า คาดว่าเป็นผ้าเปื้อนเลือดภายในถุงดำนำไปทิ้งขยะ  ภาพจากกล้องวงจรปิดจึงเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้ทราบเส้นทางหลบหนี  อีกทั้งพบว่าในช่วงเกิดเหตุไมมีผู้ใดเข้าออกห้องพักของผู้ตาย  นอกจากนายธันพิชา ส่วน แรงจูงใจการก่อเหตุคาด เกิดปัญหาด้านความรัก เนื่องจากผู้ตายกำลังจะไปมีแฟนใหม่เป็นผู้หญิง  สอดคล้องกับพยานแวดล้อมที่ระบุว่า ทั้งคู่มีปากเสียงจากความหึงหวงกันเป็นประจำ  และหลังเกิดเหตุนายธันพิธานก็หายตัวไปทันที  โดยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีเรื่อยมาและพยายามจะหางานทำเพราะเงินก็เริ่มร่อยหรอ  แต่เนื่องจากมีคดีอาญาติดตัว จึงไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลบัตรประชาชน เบื้องต้น ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้เดินทางมารอรับตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดีต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก