เปิดเส้นทางโจรปลอมเฟซบุ๊กแก๊ง “อ้วน แม่เปิน”

พิษณุโลก 10 มิ.ย.-ตำรวจภูธรภาค6 แถลงจับแก๊งปลอมเฟซบุ๊กหลอกญาติเหยื่อโอนเงิน นำโดย “อ้วน แม่เปิน” หลอกโอนเงินผู้เสียหายหลายราย รวมกว่า 1 ล้านบาท 


พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เป็นผู้นำในการแถลงข่าวครั้งนี้ ที่มาที่ไปเรื่องคือ เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งประสานมายังตำรวจว่า มีคนร้ายปลอมเฟซบุ๊ก เป็นญาติของเหยื่อ เหยื่อก็คิดว่าเป็นญาติตัวจริง หลงเชื่อแจ้งเลขบัญชี-บัตรประชาชนและรหัสผ่านให้ จากนั้นคนร้ายได้นำรหัสข้อมูลที่ได้ไปเข้าระบบอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง โอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อจนหมดเกลี้ยง ในที่สุดก็จับกุมได้ยกแก๊ง หัวหน้าแก๊งคือ น.ส.อรนันท์ สิงหาสาร หรือฉายา “อ้วน แม่เปิน” อายุ 21 ปี พร้อมกับพวก อีก 4 คน


พฤติการณ์คือกลุ่มคนร้ายจะปลอมเฟซบุ๊ก ของบุคคลที่เปิดสาธารณะเก็บเอาไว้เป็นข้อมูลจำนวนหนึ่ง แล้วแจกจ่ายให้กับพรรคพวกในเครือข่าย  โดยตกลงกันแบ่งเงินที่ได้จากการหลอกเหยื่อคนละครึ่ง เมื่อคนในแก๊งสามารถใช้เฟซบุ๊ก ติดต่อเหยื่อได้และเหยื่อหลงเชื่อจะออกอุบายขอไลน์ไอดีเพื่อใช้สนทนา จนกระทั่งเหยื่อเชื่อว่าบุคคลที่สนทนาในไลน์คือญาติหรือคนรู้จักจริงๆ จึงใช้อุบายจะโอนเงินให้ แต่ไม่มีบัญชีขอหน้าสมุดบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน และรหัสทำอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งของเหยื่อ เมื่อได้ทุกอย่างครบก็จะดำเนินการ โอนเงินจากบัญชีเหยื่อไปสู่ บัญชีกลุ่มที่ขายบัญชีให้ แล้วจึงทำการถอนเงินสดออกมาทันที

จากการตรวจสอบพบแก๊งอ้วน แม่เปินก่อเหตุมาหลายคดี ทั้งที่แจ้งความและยังไม่ได้แจ้งความ โดยเมื่อจนมุมจริงๆ คนร้ายจะเจรจาขอชดใช้เงินให้ผู้เสียหายยอมถอนแจ้งความแล้วกลับมาก่อเหตุใหม่ เท่าที่พบตอนนี้ มี 4 คดี ในพื้นที่ สภ.วังทรายพูน จ.พิจิตร สน.ยานนาวา กทม. สภ.เมืองอุดรธานี และ สภ.สิเกา จ.ตรัง

“อ้วน แม่เปิน” เผยว่า ตนเองไม่มีอาชีพ  ว่างก็เรียนวิชาปลอมเฟซบุ๊กจากเพื่อนอีกคน โดยใช้โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ในการปลอมแต่ละครั้ง ก็แบ่งกันหารูป profile แล้วสุ่มเข้าไปติดต่อกับญาติของเหยื่อ จากนั้นก็จะทำทีพูดคุยก่อน จนเหยื่อหลงเชื่อแล้ว หลอกให้โอนเงิน บางรายได้เงินมา 40,000-50,000 บาท แต่เหยื่อล่าสุด ได้เงินกว่า 1 ล้านบาท โดยเงินจำนวนหนึ่งเอาไปใช้หนี้ จากนั้นก็แบ่งให้กับเพื่อนร่วมแก๊ง 


ผู้เสียหาย ชาวจังหวัดนครสวรรค์ เล่าให้ฟังว่าเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนมี เฟซบุ๊ก ของญาติซึ่งอยู่ประเทศนอร์เวย์ขอแอดมาขอเป็นเพื่อนจึงรับไว้ จากนั้นมิจฉาชีพคนดังกล่าวได้ทักแชทมาพูดถึงมิจฉาชีพคนที่ 2  ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหลาน ต้องการขอ ID LINE ตนก็ไม่ได้เอะใจจึงให้ ID LINE ไปแล้วสักครู่ก็มีคนแอดไลน์มาซึ่งก็พบว่ารูปprofileเป็นหลานสาวของตนจริงๆ  จากนั้นได้มีการพูดคุยว่าตนเองที่ทำงานอยู่ต่างประเทศกำลังจะเดินทางกลับอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า ตอนนี้กำลังเดือดร้อนเนื่องจากไปทำงานแล้วได้เงินไทยแต่ไม่สามารถส่งเงินกลับบ้านหรือเอาเข้าบัญชีตนเองได้เพราะภาษีสูง จึงต้องการขอฝากเงินในบัญชีของผู้เสียหาย โดยจะโอนครั้งละ 20,000 – 40,000 บาท ด้วยความที่เป็นญาติและตนก็เห็นใจจึงให้เบอร์บัญชี บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ไป จากนั้นเมื่อตนส่งเอกสารครบหมดทุกอย่างประมาณ 1 ชั่วโมงก็เข้าไปเช็คเงิน ปรากฏว่าเงินในบัญชีของตนหายไปทั้งหมดหลักล้านบาทจึงรีบโทรหา call center ของธนาคารก็ปรากฏว่าทำอะไรไม่ทันแล้วเพราะว่าเงินถูกถอนออกไปหมดแล้วจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง