นราธิวาส 9 มิ.ย.- ผู้การนราฯ ลงพื้นที่บาเจาะเกาะติดการจับกุมผู้ต้องหาสามีภรรยาชิงทองหนัก 3 บาท หนีจากร้านทองแล้วนำไปขายต่างอำเภอ อ้างไม่มีเงินเลี้ยงลูก ตำรวจคุมตัวทำแผนรับสารภาพ
กรณีสามีภรรยาขับรถจักรยานยนต์มาจอดใกล้ร้านทองย่านถนนเพชรเกษม สาย 42 หมู่ 1 เขตเทศบาลต้นไทร ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อเที่ยงวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฝ่ายภรรยาทำทีเข้ามาเลือกซื้อทอง ส่วนสามียืนรออยู่หน้าร้าน ระหว่างเลือกลวดลายและสอบถามราคากัน ฝ่ายภรรยาอ้างว่าเงินในกระเป๋าไม่พอ ขอไปกดเงินก่อน จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไป ขณะที่สามีไม่ได้ตามไปด้วยและเข้าไปในร้านเลือกดูทองแทนภรรยา เมื่อสบโอกาสจึงฉวยสร้อยคอทองคำวิ่งออกจากร้านไปจำนวน 3 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวมมูลค่า 78,000 บาท
ล่าสุด (9 มิ.ย.) ชุดสืบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ ตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งสองไว้ได้ภายในบ้านพักที่หมู่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ หลังขยายผลจากเบาะแสกล้องวงจรปิดและทะเบียนรถจักรยานยนต์ คือ นายซุลกิฟลี สนิ และ น.ส.แวบะห์ ตาเย๊ะ ซึ่งทั้งสองรับสารภาพว่าก่อเหตุที่ร้านดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่สอบปากคำเพิ่มเติมกับ 2 ผู้ต้องหาก่อนพาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ต.นรินทร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีเงิน และต้องเลี้ยงลูกวัย 2 ขวบ หลังชิงทองมาได้แล้วนำไปขายที่อำเภอสุไหงปาดี นอกจากนี้ การตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง ที่ร้านทองในเขตเทศบาลตำบลยี่งอ อ.ยี่งอ เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย