พัทลุง 8 มิ.ย.- กรณีแม่ค้าอาหารทะเลอ้างถูกตำรวจรีดไถเงิน แถมต้องแกะหอยนางรมให้กินแกล้มเหล้า ล่าสุด มีการเชิญแม่ค้าคนดังกล่าวให้ข้อมูล แต่ปรากฏข้อมูลที่ให้ในวันนี้ ต่างจากที่เคยมาร้องเรียนสื่ออย่างสิ้นเชิง โดยระบุเงินที่โอนให้ดาบตำรวจเป็นหนี้สินที่ยืมมาช่วงที่เคยคบหาเป็นแฟนกัน
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง สอบปากคำ “น.ส.สา” (นามสมมุติ) แม่ค้าอาหารทะเล โดยในเบื้องต้น น.ส.สา ยืนยันกับผู้การฯ ว่า ในคืนวันเกิดเหตุไม่มีการตั้งจุดตรวจ ส่วนเงิน 5,700 บาท โอนให้ ด.ต.ไชยา ชูศรีเพชร ผบ.หมู่ (สืบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ตำรวจที่ถูกย้าย ยืนยันว่าเป็นเงินหนี้สินที่ยืมจากดาบตำรวจคนดังกล่าว เพื่อนำไปเสียค่าปรับต่อศาลจังหวัดพัทลุง ในช่วงที่เคยคบหากันเป็นแฟน
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงบอกว่า เพื่อให้เป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากที่ น.ส.สา ปฏิเสธว่า ไม่ได้ถูกเรียกเงินหรือถูกจับกุมมารีดเงิน และปล่อยตัวไปในเวลาต่อมา หลังจากจะตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย พร้อมทั้งสอบปากคำตำรวจผู้เกี่ยวข้องในคดีอื้อฉาวทั้ง 4 นายด้วยตนเอง พร้อมยืนยันว่าจะไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ก่อนหน้านี้ น.ส.สา ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ถูกรีดไถในกรณีดังกล่าว และบอกด้วยว่า “เจ็บใจที่ต้องเสียทั้งเงิน และต้องมานั่งแกะหอยนางรมเป็นชั่วโมงๆ เพื่อให้ตำรวจกินแกล้มเหล้า” จากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลข้อเท็จจริง ปรากฏว่าแม่ค้าคนดังกล่าวได้เก็บตัวเงียบ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจมีการพูดคุยกับตำรวจชุดดังกล่าว จนกระทั่งล่าสุดออกมาให้ข้อมูลในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย