กทม.ขู่ลงดาบ งานหยิ่น-วอร์

สำนักข่าวไทย 8 มิ.ย. –   ผอ.เขตปทุมวัน  เผย  ผู้จัดงาน คู่จิ้น “หยิ่น-วอร์”รับไม่ได้ เตรียมการให้ดี ทำให้แฟนคลับแห่มา ล้นโรงหนังเมเจอร์ จึงตักเตือน  ส่วนเจ้าของสถานที่ บกพร่องไม่ปิดช่องทางเข้า-ออก  ทำให้คนเดินเชื่อมถึงกันได้ง่าย สั่งแก้ไข และเตรียมลงพื้นที่ตรวจซ้ำ 10 มิ.ย.นี้ 


นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวถึงการ เชิญผู้เกี่ยวข้อง  จัดงานไลฟ์สดคู่จิ้น “หยิ่น-วอร์” ที่ชั้น 5 โรงภาพยนตร์  เมเจอร์ สาขาศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่บรรดาแฟนคลับเข้ามาดักรอ จนแน่นพื้นที่ ไม่สามารถจัดระเบียบ  ตามกฎของการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกัน โควิด-19  ว่า  จากการหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้ง  ตำรวจ ตัวแทนเมเจอร์ ซินีเพล็ก ผู้อนุญาตให้จัดงาน และห้างสยามพารากอน เจ้าของสถานที่  โดยทาง เมเจอร์ ออกมาชี้แจงว่า วันเกิดเหตุทางผู้จัด มาขออนุญาตเข้าพื้นที่ระบุว่าจะมาถ่ายทำมิวสิควิดีโอของดาราทั้งคู่ โดยทางกองถ่ายปฎิบัติตาม และยึดหลักปฏิบัติตามที่ภาครัฐได้แจ้งไว้ แต่เนื่องจากมีเหล่าบรรดาแฟนคลับของทั้งคู่ทราบข่าวก็ได้มีการกระจายข่าวผ่านทางกลุ่มโซเชียลมีเดีย ทำให้ขณะถ่ายทำมีแฟนขับจำนวนมากแหกกฎ  เข้ามาเต็มพื้นที่ขัดกับหลักการรักษาระยะห่างที่ ภาครัฐกำหนด  ซึ่งปัญหาคือ ทางผู้จัดงานไม่ได้มีการเตรียมการรองรับ และไม่คาดคิดว่าจะมีแฟนคลับจำนวนมากที่จะเข้ามาในพื้นที่  ประกอบกับ จากการสำรวจรอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่า เป็นพื้นที่เปิด และเชื่อมต่อกันได้  ไม่ว่าจะเป็น ลิฟท์ บันไดเลื่อน ทางเชื่อมจากตัวห้าง หรือร้านค้า ร้านอาหาร ทำให้ประชาชนเข้ามาในพื้นที่โรงภาพยนต์ได้เป็นจำนวนมาก 


นางมาศวัลย์  กล่าวว่า ทางเขตปทุมวัน ได้ทำหนังสือตักเตือนไปยังโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์พร้อมกับย้ำให้ทางโรงภาพยนตร์จำกัดช่องทางเข้า-ออก พื้นที่ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและควบคุมประชาชนหากในอนาคตเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก  พร้อมกับย้ำทางโรงภาพยนตร์และห้างสรรพสินค้าพารากอน หากมีการถ่ายทำภาพยนตร์ โฆษณา หรือมิวสิควิดีโอ ที่ต้องใช้ดารานักแสดงร่วมจะต้องแจ้งมายังทางสำนักงานเขตทุกครั้ง เพื่อจะได้ร่วมกันหาทางออกและวางแผนในการจัดการกับบรรดาแฟนคลับที่อาจจะเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก


นางมาศวัลย์  กล่าวว่า สำหรับบทลงโทษเรื่องนี้ ถ้าหากสืบสวนสอบสวนว่ามีการจงใจฝ่ามืนมาตรการของทางภาครัฐ ตามกฎหมาย พรก.ฉุกเฉินก็จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาทขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ในการดูแล และเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะนำข้อมูลในวันนี้ไปประกอบการพิจารณาต่อไป  ส่วนทางเขตปทุมวันเตรียมที่จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบการแก้ไขปัญหาของทางห้างสรรพสินค้าและโรงภาพยนตร์อีกครั้งในช่วงบ่าย ของวันที่ 10 มิถุนายนนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน