SCB เตรียมผุด แพลตฟอร์ม ฟู้ดเดลิเวอรี่ ‘Robinhood’ ไม่คิดค่าธรรมเนียม!

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – ไทยพาณิชย์ เตรียมเปิดตัว แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย  “Robinhood” ไม่มีค่าฟี ไม่ชาร์ทเพิ่ม หวังลดภาระลูกค้า พร้อมประกาศแผน SCB New Normal สร้างวัฒนธรรมองค์กรรูปแบบใหม่ให้เป็นองค์กรตัวเบา ต่อยอด Digital Transformation 


นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)เปิดเผยว่า ธนาคารพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาในเวลาเพียง 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “Robinhood” (โรบินฮู้ด) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย โดยไม่เก็บค่าจีพี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ต้องเจอเมื่อนำร้านขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งค่าจีพีนับเป็น Pain Point หลักของผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ปลายเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะมีร้านอาหารร่วมในแพลตฟอร์มประมาณ 40,000-50,000 รายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ จุดเด่นของ”Robinhood”คือ ไม่มีค่าพีจี ไม่ค่าธรรมเนียมในเข้าแพลตฟอร์ม และได้รับเงินโอนรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากผู้รับจ่ายเงินทั้งในส่วนของร้านค้า และผู้ส่งของ


ทั้งนี้ แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ภายใต้ชื่อ “Robinhood”จะดำเนินการภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จากัด (Purple Ventures) บริษัทน้องใหม่ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ที่ตั้งขึ้น โดยมีงบการลงทุนต่อปีประมาณ 100 ล้านบาท จากความต้องการช่วยเหลือคนไทยให้สามารถทาธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน Robinhood จึงไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างคนกับร้านค้า แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมความสัมพันธ์ เชื่อมเศรษฐกิจ เป็นแพลตฟอร์มที่สื่อถึงการช่วยเหลือกัน การแบ่งปันความสุขซึ่งกันและกัน ซึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยาก คือ จุดแข็งที่ทำให้คนไทย สังคมไทย และประเทศไทยสามารถรอดพ้นทุกวิกฤตที่เผชิญได้ ซึ่งการเปิดแพลตฟอร์มดังกล่าวธนาคารได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้ว

สำหรับการแข่งขันตรงนี้สูงมาก แต่ก็ไม่ได้ออกมาเพื่อจะแข่ง และเราก็ได้คุยกับพันธมิตรอย่าง GET ที่เคยเซ็นสัญญาไปก็เป็นเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้พนักงานเท่านั้น แต่เป็นการนำเสนอในอีกทางเลือกที่จะได้รับประโยชน์ทั้งร้านค้า ผู้ขนส่ง และผู้สั่ง โดยใช้เงินลงทุนไปกว่า100 ล้านบาท และร่วมมือกับบริษัท สกู๊ตตาร์ บียอนด์ จำกัด(skootar)ที่ให้บริการแมสเซ็นเจอร์ออนไลน์ ในด้านผู้ส่งสินค้า ซึ่งหากเราสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า มีแพลตฟอร์มที่ใหญ่ขึ้น ก็อาจจะขยายวงออกไปสู่อย่างอื่นนอกจากกลุ่มอาหาร รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ได้ อย่างผู้ประกอบการร้านค้าก็จะเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าจากให้ผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย น่าจะทำให้เรามีที่ยืนในธุรกิจนี้ได้บ้าง

ส่วนแผนงานเพื่อรองรับ New Normal นั้น ณ ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่จบ และมีผลกระทบวงกว้าง คาดว่ากว่าจะที่ให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแรงเท่าเดิมต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งธนาคารเองก็มีแนวทางในการเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาลูกค้าทั้งด้านการพักชำระเงินต้น-ดอกเบี้ย และการให้เงินกู้ซอฟต์โลนเสริมสภาพคล่องตามโครงการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และธนาคารออมสินโดยมียอดปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 30,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันธนาคารเองก็ต้องมีการปรับองค์กรให้เบา เพื่อลดต้นทุนเช่นกัน ซึ่งในช่วง 4-5 ปีจากที่ธนาคารได้ทำโครงการ Digital Transformation ที่ทำให้มีการปรับตัวมาแล้วระดับหนึ่ง และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้เช่นกัน


ด้านการดูแลลดต้นทุน ไม่ใช่การให้พนักงานออก ซึ่งธนาคารไม่ได้ทำและไม่มีแผนจะทำ แต่ต้นทุนของธนาคารลดลงทุกเดือน โดยที่ไม่ต้องเอาพนักงานออก ทุกองค์กรมีไขมัน ถ้าใช้เวลาดูแลอย่างเต็มที่ในการรีดไขมันให้ออกไป ก็จะทำให้ตัวเบาลงได้ และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ลูกค้ามีต้นทุนที่เบาลง ขณะที่จำนวนสาขานั้น คงจะไม่เห็นจำนวนสาขาที่ลดลงมากๆแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็นสาขาย่อยและใช้แมชชีนเป็นหลัก พนักงานสาขาก็จะได้รับการอบรมให้สามารถทำงานได้ในส่วนอื่นๆได้ รวมถึงการขยายจาก work from home เป็น work from anywhere ด้วย ซึ่งจากที่มาก็ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะจริงๆแล้วโลกก็มาในทิศนี้อยู่แล้ว แต่มีโควิดฯมาเป็นตัวเร่งให้เร็วขึ้นอีก

ส่วนปัญหาด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)นั้น ขณะนี้กลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาก็ยังอยู่ในโครงการพักชำระเงินต้น-ดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่จึงยังไม่สามารถประเมินการเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอลได้ชัดเจน ขณะที่อัตราการเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก โดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ที่อาจจะมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มหลังจากการระดมทุนผ่านหุ้นกู้อาจจะไม่สะดวกเหมือนในช่วงที่ผ่านมา . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]