เจาะปมขัดแย้งย้าย ผอ.รพ.ขอนแก่น

ขอนแก่น 5 มิ.ย.- ไม่บ่อยครั้งนัก ที่จะเห็นแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ออกมาเคลื่อนไหว เช่น เหตุการณ์ร้องขอความเป็นธรรมให้ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ที่ถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง และถูกสั่งย้ายเข้ากระทรวงฯ อะไรทำให้เกิดกระแส #SAVEผอ.ชาญชัย ติดตามจากรายงาน



ในอดีตบริษัทยา บริษัทครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จะบริจาคเงินให้โรงพยาบาลคู่ค้าร้อยละ 5 เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ละโรงพยาบาลจะนำเงินไปเป็นสวัสดิการเจ้าหน้าที่ พัฒนาโรงพยาบาล ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากงบประมาณจากภาครัฐไม่พอต่อค่าใช้จ่าย แต่เมื่อเดือนมีนาคม 2561 กระทรวงสาธารณสุขแจ้งมติ ครม. ห้ามโรงพยาบาลรับบริจาคจากบริษัทคู่ค้า ป้องกันการทุจริต ให้โรงพยาบาลต่างๆ ทราบ


เมื่อโรงพยาบาลขอนแก่นรับทราบมติ ครม.ดังกล่าว ก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่มีใครคาดคิดว่าต่อมา นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น จะถูกบัตรสนเท่ห์กล่าวหาเรียกรับเงินร้อยละ 5 จากบริษัทยา เข้าบัญชีกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ช่วงเดือนเมษายน 61-เดือนตุลาคม 61 นพ.ชาญชัย ชี้แจงก่อนย้ายเข้ากระทรวงฯ ว่า บัญชีนี้เป็นบัญชีที่เปิดรับบริจาคจากบุคคลทั่วไป

ความพยายามย้าย นพ.ชาญชัย มีมาก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 นพ.ชาญชัย เคยถูกสั่งย้าย มี นพ.เกรียงศักดิ์  วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ ในขณะนั้นย้ายมาแทน แต่บุคลากรโรงพยาบาลขอนแก่นออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน เพราะโรงพยาบาลกำลังพัฒนา เป็นการย้ายแบบกะทันหันก่อนวาระ ทำให้ นพ.ชาญชัย ได้ย้ายกลับมาอีกครั้ง


โรงพยาบาลขอนแก่นพัฒนาต่อเนื่อง หลัง นพ.ชาญชัยเข้ามาบริหาร อาทิ ฟื้นฟูสถานะทางการเงิน จากขาดทุน 200 ล้าน มามีเงินบำรุงคงเหลือกว่า 200 ล้านบาท, ได้รับความไว้วางใจจากภาคเอกชนและพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ทำให้ได้รับบริจาคและช่วยเหลือในด้านต่างๆ การพัฒนาโรงพยาบาลอย่างก้าวกระโดด ทำให้บุคลากรโรงพยาบาลขอนแก่นเชื่อมั่นในตัว นพ.ชาญชัย การถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ถูกกล่าวหาฉ้อราษฎร์บังหลวง องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น มองว่าเป็นข้อหาที่ร้ายแรงเกินไป เป็นการย้ายที่ไม่เป็นธรรม

วันนี้ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี เดินทางมารักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น มีคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลขอนแก่น บุคลากรจากโรงพยาบาลสมเด็จพระปกเกล้า และ อสม.อำเภอชุมแพ ต้อนรับ นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การแสดงออกของบุคลากรโรงพยาบาลขอนแก่นในช่วงที่ผ่านมาไม่กระทบการทำงาน

กรอบระยะเวลาการสอบสวนวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย ใช้เวลาไม่เกิน 180 วัน หากมีเหตุจำเป็นขยายเวลาได้ แต่ไม่เกิน 270 วัน ทั้งนี้ องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น และบุคลากรแวดวงสาธารณสุข กำลังเฝ้าติดตามตรวจสอบว่า ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขจะมีธรรมาภิบาลหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย