สงขลา 3 มิ.ย. – คนไข้อายุ 78 ปี กินกระท้อนกลืนเม็ดลงท้อง ทิ่มลำไส้ทะลุ มาหาหมอด้วยอาการท้องอืดและปวดท้อง แพทย์เอกซเรย์พบเม็ดกระท้อนบ้านอยู่ในท้อง 7 เม็ด รีบผ่าตัดจนรอดชีวิต
นพ.จิรัชย์ จิรธรรมโอภาส แพทย์ชำนาญการแผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา โพสต์ข้อความและภาพลงเฟซบุ๊กชื่อ Jirat Jiratham-opas ข้อความว่า “ค่ำมืดดึกดื่น ต้องตื่นมาผ่าตัด กับโรคที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้… “เม็ดกระท้อนตำไส้ทะลุ” เพื่อเตือนให้ผู้ที่ชอบกลืนเม็ดกระท้อนลงไปให้ระวัง เพราะอันตรายมาก หลังจากที่มีผู้ป่วยสูงอายุคนหนึ่งกลืนเม็ดกระท้อนเข้าไปกองอยู่ในลำไส้และตำไส้จนทะลุ และมารักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพราะเม็ดกระท้อนมีลักษณะเรียว หัวแหลม ท้ายแหลม ชอบไปกองไนใส้ และทิ่มทะลุไส้แตก
นพ.จิรัชย์ เปิดเผยว่า คนไข้รายนี้อายุประมาณ 78 ปี ไม่มีประวัติผิดปกติเรื่องของการขับถ่าย มารักษาเพราะอาการท้องอืด ปวดท้อง ตอนนั้นอาการที่คิดน่าจะเป็นอาการลำไส้ หรือระบบทางเดินอาหารทะลุ และช่วงนี้เป็นหน้ากระท้อนด้วย ก็เลยคิดว่าน่าจะมีสาเหตุจากเม็ดกระท้อน เมื่อเอกซเรย์ดูปรากฏว่า คนไข้มีลำไส้ทะลุจริงๆ และมีสิ่งแปลกปลอมลักษณะคล้ายเม็ดกระท้อน หัวเรียว ท้ายแหลม อยู่ในลำไส้ 7 เม็ด จึงรีบผ่าตัดทันที เพราะคนไข้มีลำไส้ทะลุ ถ้าไม่ผ่าตัด คนไข้ก็จะเสียชีวิตได้ และการผ่าตัดก็สำเร็จ ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และยกทวารเทียมขึ้นมาเปิดให้คนไข้ถ่ายทางหน้าท้อง และต้องรอดูอาการ 6 เดือน เพื่อให้การอักเสบในช่องท้องดีขึ้น แล้วจึงทำการผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะปิดตัวทวารเทียมเอาลำไส้เดิมไปต่อกับที่ตัดไว้ เพื่อให้คนไข้ถ่ายอุจจาระได้ตามปกติ
นพ.จิรัชย์ บอกว่า เป็นเคสแรกที่เจอ และเม็ดกระท้อนที่กลืนเข้าไปเป็นกระท้อนบ้าน มีหัวแหลม ท้ายแหลม อาจจะดูดเพลินๆ แล้วกลืนลงท้องไปเลย ส่วนใหญ่ก็จะทำให้ลำไส้ทะลุจริงๆ จากข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก็มีอาจารย์แพทย์หลายท่านกล่าวถึงเรื่องนี้ด้วย จึงขอเตือนให้ผู้ที่ชอบกินกระท้อน อย่ากลืนเม็ดลงท้อง เพราะอันตรายมาก โดยอาการลำไส้ทะลุ คนไข้จะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด เป็นไข้ และอาจมีภาวะช็อกได้ หากมีอาการดังกล่าวให้มาพบแพทย์โดยด่วน
ส่วนอาการคนไข้ ตอนนี้ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว เอาท่อช่วยหายใจออกแล้ว ยังต้องทำแผลทุกวัน ไม่พบอาการติดเชื้อ เริ่มรับประทานน้ำและอาหารอ่อนๆ อย่างข้าวต้มได้แล้ว. – สำนักข่าวไทย