BIG STORY : เร่งตามตัว “เสี่ยไฮ้-คนสนิท” คดีฆาตกรรมเซลส์สาว หลังสั่งฟ้องไม่ทัน

สระบุรี 2 มิ.ย. – คดีที่ “เสี่ยไฮ้” ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอำพรางเซลส์สาวคนสนิท หลังพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องไม่ทัน จนได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวกลับมา


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปโรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่งในอำเภอพระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อขอเข้าพบกับนายสันติ จึงทองดี หรือ “เสี่ยไฮ้” อายุ 63 ปี และลูกน้องคนสนิท หลังทราบว่าทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากอัยการพิจารณาสั่งฟ้องไม่ทันตามกำหนดฝากขัง 84 วัน อย่างไรก็ตาม รปภ.ของโรงงานไม่อนุญาตให้เข้าไป และไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ข้อมูลว่า เพิ่งทราบข่าวว่า “เสี่ยไฮ้” ออกจากเรือนจำมาแล้ว แต่ปกติจะไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกัน


ด้าน พ.ต.ท.ณัฏฐกร กันธายอด สารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองโดน ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับนายสันติ และนายนิวัฒน์ เฉลิมวัฒน์ อายุ 36 ปี ลูกน้องคนสนิทแล้ว จึงส่งชุดสืบสวนทั้งในพื้นที่รวมถึงชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่ติดตามตัวกลับมาให้อัยการเพื่อทำการสั่งฟ้อง


สำหรับ “เสี่ยไฮ้” และลูกน้องคนสนิท ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมอำพราง น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์ขายปุ๋ย หลังจากเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 มีผู้พบเห็นรถเก๋งจมน้ำอยู่ในคลองชัยนาท-ป่าสัก ต.หนองโป่ อ.หนองโดน จ.สระบุรี และพบโครงกระดูกมนุษย์ จากนั้นเมื่อตรวจสอบทะเบียนรถจึงทราบชื่อผู้ครอบครอง คือ น.ส.กลิ่นเกษร

เมื่อสืบสวนสอบสวนจึงเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง และตั้งปมสังหารไว้ 3 ประเด็น ทั้งความขัดแย้งทางธุรกิจ ชิงทรัพย์ และชู้สาว แต่การสืบสวนมุ่งไปที่ปมชู้สาวมากที่สุด พร้อมกับเชิญญาติของผู้ตายมาให้ปากคำ และพิสูจน์ทราบโครงกระดูก 

จากนั้นได้เบาะแสสำคัญ คือ เมื่อปี 2559 (3 ปีก่อนพบรถยนต์) แม่ของผู้ตายได้ไปแจ้งความคนหายที่ สภ.พระพุทธบาท ก่อนเข้าตรวจค้นโรงงานปุ๋ยของ “เสี่ยไฮ้” ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่ผู้ตายบอกกับครอบครัวว่าเข้าไปพักอาศัยก่อนหายตัวไปในคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 และเมื่อสอบถามไปยัง “เสี่ยไฮ้” จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดมายืนยันว่าผู้ตายได้ขับรถออกไปจากโรงงานในเวลา 03.06 น.  จุดที่พบศพห่างจากโรงงานเพียง 12 กิโลเมตรเท่านั้น

จากการสอบปากคำคนใกล้ชิดทราบว่า ผู้ตายมีปัญหากับ “เสี่ยไฮ้” อย่างรุนแรง ปมหึงหวง ถึงขั้นถูกส่งคนสะกดรอยและเคยขู่ไว้ว่า “เขาฆ่าคนก็ไม่ติดคุก” จนผู้ตายเคยคิดจะหนีไปอยู่ที่อื่น อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการระดมนักสืบคลี่คลายคดี จึงสามารถจับนายสันติ และนายนิวัฒน์ มาดำเนินคดี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในวันที่ 24 ธันวาคม 2562 

อย่างไรก็ตาม เมื่อลำดับเหตุการณ์เกี่ยวกับการดำเนินคดีพบว่า พนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน ได้นำตัว 2 คนไปฝากขังที่ศาลในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 มีกำหนดฝากขัง 84 วัน (ผัดฟ้องได้ 7 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 12 วัน) ระหว่างทำสำนวนเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ปรากฏว่าระยะเวลาการทำสำนวนยาวนานถึง 83 วัน  โดยได้ส่งสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ทำให้อัยการมีเวลาพิจารณาสำนวน 1 วัน ก่อนครบกำหนดในวันที่ 13 มีนาคม จากนั้นอัยการได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาคดีอย่างเร่งด่วน  ท้ายสุดปรากฏว่าสั่งฟ้องผู้ต้องหาไม่ทันตามกำหนด ทำให้ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาออกจากเรือนจำ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างสรุปสำนวน ได้สืบสวนสอบสวนทราบว่ามีผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายมาโนช สอบสวัสดิ์ และจับกุมตัวเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ทำให้อัยการสามารถทำความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 3 คน คือ นายสันติ นายนิวัฒน์ และนายมาโนช เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม

จากนั้นในวันที่ 12 พฤษภาคม มีการยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่ 3 พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจติดตามผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 มาส่งฟ้องภายในวันที่ 26 พฤษภาคม แต่ท้ายสุดไม่มาตามนัด จึงอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม แต่ปัจจุบันยังไม่พบตัว. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]