กรุงเทพฯ 2 มิ.ย. – ส.ส.นราธิวาส อดีต กก.บห. พปชร.จี้สปิริตสุภาพบุรุษ แนะ “อุตตม – สนธิรัตน์” ลาออกไป รักษาพรรคเอาไว้ หากไม่ไป เลือกตั้งครั้งหน้าไม่เหลือ ส.ส. แนะกลับไปทบทวนตัวเองทำไมถูกต้านหนัก ชี้การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติไม่ได้ไปคดโกงใคร
นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร. ) ที่ลาออก ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนการที่จะเปลี่ยนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นเหตุผลภายในพรรค ที่ตนลาออกเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐ เดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มั่นคง
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐนั้นเสนอชื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนหัวหน้าพรรค หรือ เลขาธิการพรรคนั้น ตนไม่ได้มีความสนิทสนมหรือชมชอบในทางการเมืองมาก่อน ไม่เคยรู้จักกัน
“สิ่งที่ทำในวันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอะไร ผมว่าการที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐอยู่ได้เดินต่อไปได้อย่างเข็มแข็ง เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าตำแหน่งหัวหน้า เลขาฯ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลง หัวหน้า เลขา ผมว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่เหลือเพื่อน ส.ส. อยู่ต่อแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการบริหารงานภายในพรรค เป็นเรื่องภายในบ้าน ไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมาย คดโกงใคร หรือผมไปทำอะไรที่ผิดต่อประเทศชาติและผมคิดว่าการกระทำในวันนี้เป็นเรื่องของความกล้าหาญ กล้าตัดสินใจให้ ส.ส. และสมาชิกพรรค อยู่ต่อกันอย่างแข็งแรงสามัคคีเพื่อทำงานให้ชาติบ้านเมือง” นายสัมพันธ์ กล่าว
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า หัวหน้า และเลขาธิการพรรค ไม่ควรยึดติดกับตำแหน่งนี้ เพราะว่าถ้าทุกคนในกรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งไม่ยอมรับ ก็ควรเป็นสุภาพบุรุษ ถ้ายึดมั่นในระบบประชาธิปไตย ต้องหยุด แล้วไปพิจารณาวิเคราะห์ตัวเองมากกว่าว่าอดีตที่ผ่านมาทำอะไรไว้ ถึงทำให้กรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งไม่สนับสนุนและตามระบบประชาธิปไตย คือต้องยอมรับเสียงส่วนมาก
“ไม่ใช่คนนั้นคนนี้มาพูดว่า เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์แบบนี้ ผมเรียนว่า ธุรกิจ กิจการห้างร้านต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้อยู่ได้ พรรคพลังประชารัฐเอง ก็คิดเหมือนกันว่าถ้าจะให้อยู่ต่อไปได้ และอยู่โดยมีคุณภาพ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หัวหน้า เลขาพรรค ทำไมต้องยึดติดกับตำแหน่ง” นายสัมพันธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย