กองทัพบกจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระราชินี

กองบัญชาการกองทัพบก 2 มิ.ย.-กองทัพบกจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 42 พรรษา 3 มิถุนายน 2563


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 42 พรรษา 3 มิถุนายน 2563 ประกอบด้วยพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จากวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร จำนวน 20 รูป ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ณ กองบัญชาการกองทัพบก จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 

โดยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท และทรงแบ่งเบาพระราชภาระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ อาทิ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเคียงคู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยพระราชวิริยะอุตสาหะและพระปรีชาสามารถ ด้วยพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ในการทรงงานตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริการทรงงานเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019


ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ทรงห่วงใยราษฎร พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลในประเทศไทย พร้อมกับพระราชทานถุงยังชีพ แก่ประชาชนที่ได้รับลำบาก ทรงเย็บหน้ากากผ้าพระราชทานแก่บุคคลสำคัญของประเทศ ข้าราชบริพาร บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคระบาดนี้ รวมทั้งได้พระราชทาน โครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด-19 โดยพระราชทานพระราชานุญาตให้นำที่ดินในโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงจำนวน 30 แห่งทั่วประเทศ มาใช้ในการสนับสนุนการจ้างงาน พร้อมกับการให้ความรู้ในด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องเดินทางกลับไปอยู่ภูมิลำเนา เพื่อให้เกิดอาชีพมีรายได้หาเลี้ยงครอบครัว และทรงเป็นแบบอย่างแก่ทหารในด้านความเข้มแข็ง มีระเบียบวินัย และสง่างามแบบสตรีสากล 

จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ร่วมพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ และลงนามถวายพระพร ชมกิจกรรมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล รวมไปถึงเยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่ได้จัดสถานที่ให้กำลังพล รวมถึงประชาชน ได้ลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างร่วมใจกันจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน กองทัพบกในฐานะหน่วยงานความมั่นคงที่มีภารกิจสำคัญสูงสุด คือ การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงพร้อมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล อาทิ การบริการทางการแพทย์ การบริจาคโลหิต รวมทั้งการจัดนิทรรศการ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณอย่างสมพระเกียรติและสง่างาม ทั้งในส่วนกลาง และหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทั่วประเทศ

กองทัพบก ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคล แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ กล่าวยกย่องพระปรีชาสามารถทางการทหาร ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงสืบสาน ต่อยอดตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงพัฒนาขีดความสามารถทางการทหารมาโดยตลอด  ทรงมีจริยวัตรที่งดงาม ทรงเป็นแบบอย่างในการยึดถือวินัยทหาร และการดูแลสุขภาพร่างกาย อีกทั้ง การถวายงานราชองครักษ์ในพระองค์

สำหรับพระราชประวัติด้านการศึกษาและทรงงาน ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พ.ศ.2543 ทรงเคยเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัท แจลเวย์ จำกัด เมื่อปี 2543-2546 ทรงเคยเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2546 -2551 เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2562 ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินีสุทิดา และเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2562  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสถาปนาพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินี ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

ทั้งนี้ทรงสำเร็จหลักสูตรด้านการบิน ได้แก่ พ.ศ.2553 ทรงสำเร็จการฝึกและศึกษาตามหลักสูตรการบินของหน่วยฝึกการบินพลเรือนกองทัพอากาศ ทรงทำการบินกับเครื่องบินแบบ Cessna T  41พ.ศ.2554  ทรงสำเร็จการฝึกและศึกษาตามหลักสูตรศิษย์การบินทหารบกอากาศยานปีกติดลำตัว ชั้นมัธยม ของโรงเรียนการบินทหารบก พ.ศ.2555 ทรงสำเร็จการฝึกและศึกษาตามหลักสูตรการบินของโรงเรียนการบินกองทัพอากาศ ทรงทำการบินกับเครื่องบินแบบ CT-4 E และ PC-9  เสด็จไปฝึกและศึกษาการบินเพิ่มเติม ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี  ทรงผ่านการทดสอบและได้รับใบอนุญาตนักบินของสหภาพยุโรป ซึ่งออกไปอนุญาตโดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทรงได้รับใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอก จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนักบินผู้ช่วย ทำการบินเครื่องบินพระราชพาหนะ โบอิ้ง 737-400 และโบอิ้ง 737-900 สำหรับหลักสูตรการอบรมด้านการทหาร ปีพ.ศ.2553  ทรงสำเร็จการฝึกหลักสูตรวิชา ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ของโรงเรียนและศูนย์ฝึกหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พ.ศ.2554  ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ชั้นนายร้อย-ชั้นนายพัน หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ของโรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ พ.ศ.2556 ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่91 พ.ศ.2557  ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรหลักประจำวิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ 59 พ.ศ.2559 ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรส่งทางการอากาศ ของโรงเรียนสงครามพิเศษศูนย์สงครามพิเศษ 

ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรส่งทางอากาศนาวิกโยธินของโรงเรียนทหารนาวิกโยธิน ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Combat Qualifying Course Jungle Warfare หน่วยทหารมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์  ทรงสำเร็จหลักสูตรการยิงปืนพกการในระบบต่อสู้ภายใต้สภาวะกดดันของกองบังคับการปราบปราม พร้อมกันนี้ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท และทรงแบ่งเบาพระราชภาระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการพระราชดำริต่าง ๆ  อีกทั้งทรงเป็นแบบอย่างแก่ทหารในด้านความเข้มแข็ง มีระเบียบวินัย และสง่างาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย