เลิกแล้ว 7 ปี ยังหึงไม่เลิก ไล่ยิงถล่มอดีตภรรยา 6 นัดซ้อน ย่านเกษตรฯ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.-หนุ่มวัย 34 ปี หึงโหด เลิกราภรรยามาแล้ว 7 ปี แต่ยังขับรถตามมาประกบยิงถล่มอดีตภรรยาที่มากับแฟนใหม่ จนแฟนใหม่ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี


เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 พ.ค.) เวลา 21.00 น. พนักงานสอบสวน สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีชายถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยพหลโยธิน 45 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จึงระดมกำลังเข้าตรวจสอบ


ในที่เกิดเหตุช่วงจุดกลับรถ บริเวณหน้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 8กส 5059 กทม. สภาพรถด้านขวามีรอยกระสุนปืน 5-6 นัด ทำให้กระจกประตูฝั่งคนขับแตกทั้งบาน บริเวณถนนเลนขวาพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 6 ปลอก กระจายเกลื่อนพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายพงศ์สิทธัต ทองชุม อายุ 31 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ริมฝีปากบนและแขนขวา จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเซ็นทรัล เยเนอรัล ล่าสุดอาการปลอดภัย ส่วนมือปืนทราบชื่อนายปรัฐกรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวสงขลา โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ สีดำ ไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไป


สอบสวนนางสาวธัญรัศมิ์ โรจน์บวรภัทร์ อายุ 36 ปี ให้การว่า มีอาชีพทำอาหารส่งโรงเรียนแห่งหนึ่งในสงขลา โดยเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อทำธุระส่วนตัว หลังจากนั้นจึงไม่ได้เดินทางกลับสงขลา เพราะอยู่ในช่วงการระบาดของ “โควิด-19” จึงได้เช่าห้องพักอาศัยในย่านเกษตร เนื่องจากมีญาติพักอยู่แถวนี้

ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนเองกับนายพงศ์สิทธัต แฟนหนุ่ม มาทำธุระเรื่องการเรียนของลูกสาวที่มหาวิทยาลัยย่านดังกล่าว  หลังจากนั้นขับรถไปส่งลูกสาวคืนให้นายปรัฐกรณ์ ซึ่งเป็นอดีตสามี และกำลังพาหลานสาวอายุ 11 ปี อีกคนกลับห้องพักในซอยพหลโยธิน 45 ซึ่งช่วงเกิดเหตุตนเองนั่งเบาะด้านหน้าซ้าย ส่วนหลานสาวนั่งอยู่เบาะหลัง แต่ขณะกลับรถได้สังเกตเห็นมีรถฟอร์ดสีดำ ขับวิ่งตามหลังมา ก่อนใช้ปืนยิงเข้าใส่ 5-6 นัด ทำให้นายพงศ์สิทธัต ได้รับบาดเจ็บ ส่วนหลานสาววัย 11 ขวบ ไม่ได้รับอันตราย 

สาเหตุคาดว่านายปรัฐกรณ์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอดีตสามีน่าจะเกิดความหึงหวง เพราะหลังจากที่เลิกรากันไปประมาณ 6-7 ปี ตนเองได้ไปมีแฟนใหม่ ส่วนนายปรัฐกรณ์ ก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาใช้ปืนไล่ยิงกันขนาดนี้

ด้านพนักงานสอบสวนสันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากเรื่องความหึงหวง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก