ปิดคดีอุ้มบุญข้ามชาติ

กทม. 29 พ.ค. – วันนี้ ปคม. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงปิดคดีอุ้มบุญข้ามชาติ ดำเนินคดีกับนายทุนใหญ่ชาวจีน นายหน้า และแพทย์ที่ร่วมขบวนการ รวม 23 คน 


ย้อนไปจุดเริ่มคดีนี้ ปคม.ได้รับแจ้งเบาะแสขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อกว่า 1 ปีก่อน จากนั้นเริ่มสืบสวนแกะรอย กระทั่งพบเบาะแสสำคัญจากข้อมูลย้อนหลังที่มีการจับกุมผู้ลักลอบขนน้ำเชื้ออสุจิข้ามไปฝั่งลาวเมื่อปี 2560  หลังกฎหมายอุ้มบุญของไทยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558   


เมื่อข้อมูลมากพอ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปฏิบัติการทลายเครือข่าย “อุ้มบุญ” จึงเริ่มขึ้น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนำชุดปฏิบัติการพิเศษบุกช่วยเด็กทารกจากขบวนการอุ้มบุญ ที่บ้านพัก 2 หลังย่านลาดพร้าว จับกุมนายจ้าวเหริน  นายทุนชาวจีน ผู้ดูแลและนายหน้าชาวไทย พร้อมแม่อุ้มบุญที่ได้รับการปลูกถ่ายตัวอ่อนแล้ว 15 คน ขณะเดียวกันยังบุกคนเป้าหมายทั่วประเทศอีก 10 จุด เพื่อหาหลักฐาน พบผู้เกี่ยวข้องประมาณ 500 คน ในจำนวนนี้ 300 คน เป็นแม่อุ้มบุญและรับจ้างขายไข่      


ผ่านไป 3 เดือน ตำรวจออกหมายเรียกสูตินรีแพทย์ รวม 5 คน และนักวิทยาศาสตร์อีก 1 คน มารับทราบข้อกล่าวหา สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์เพื่อประโยชน์แห่งการค้า ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ    

ผู้บังคับการ ปคม. วันนี้นำทีมผู้เกี่ยวข้องแถลงสรุปคดี ระบุมีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี 23 คน จับกุมแล้ว 22 คน โดยมีนายทุนใหญ่ชาวจีน 5 คน เป็นตัวการ รวมถึงสูตินรีแพทย์ 5 คน และนักวิทยาศาสตร์อีก 1 คน ร่วมทำผิด ยืนยันมั่นใจพยานหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้องได้ แม้ผู้ต้องหาจะพยายามเลี่ยงกฎหมาย นำไข่และอสุจิไปปฏิสนธิและฉีดตัวอ่อนใส่แม่อุ้มบุญที่ประเทศเพื่อนบ้าน สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วเมื่อ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมเตือนว่า กฎหมายอุ้มบุญของไทยครอบคลุมถึงผู้เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญ หรือแม้กระทั่งการขายไข่ หรือน้ำเชื้ออสุจิ มีทั้งอันตรายและอัตราโทษสูง 

สอดคล้องกับอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำว่าการรับจ้างอุ้มบุญ นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังส่งผลอันตรายถึงตัวผู้รับจ้างเอง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสังคม หากเด็กถูกทอดทิ้ง จากผู้ว่าจ้าง เพราะเกิดมามีสภาพไม่สมบูรณ์ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นจากกรณี “น้องแกรมมี่” ที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม จนถูกทอดทิ้งไว้กับแม่อุ้มบุญชาวไทย ขณะที่ฝาแฝดที่มีความสมบูรณ์ถูกนำกลับไปเลี้ยงที่ออสเตรเลีย

นับเป็นการปิดฉากคดีรับจ้างอุ้มบุญในไทยคดีแรก หลังกฎหมาย พ.ร.บ.อุ้มบุญ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งช่วยอุดช่องว่างไม่ให้มีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาหาประโยชน์เหมือนในอดีต โดยมีแม่อุ้มบุญถึง 45 คน ถูกกันเป็นพยานซัดทอดผู้ว่าจ้าง เพื่อหวังถอนรากถอนโคนขบวนการรับจ้างอุ้มบุญไม่ให้เกิดขึ้นอีก. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีในชั้นศาล ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคม-สโมสร

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟ้อง ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคมและสโมสร

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท