จับหนุ่มอุซเบกิสถานหลอกเพื่อนร่วมชาติค้าประเวณี

กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – ตำรวจ ปคม.จับชาวอุซเบกิสถาน หลอกเพื่อนร่วมชาติค้ามนุษย์ในไทย อ้างพาทำงานในร้านอาหารที่พัทยา แต่ถูกบังคับให้มาค้าประเวณี หากไม่ทำตามจะถูกทำร้ายร่างกาย


ตำรวจ ปคม.นำหมายจับเข้าควบคุมตัวนายนารุส ชาวอุซเบกิสถาน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลอกสาวร่วมชาติค้าประเวณีในไทย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา มูลนิธิไนท์ไลท์ และองค์กรโอยูอาร์ ได้พานางสาวเค (นามสมมติ) ชาวอุซเบกิสถาน อายุ 19 ปี มาแจ้งความว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อค้าประเวณี

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผู้กำกับการ 2 ปคม. เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ต้องหาให้เพื่อนสนิทของนางสาวเค ผู้เสียหาย ชักชวนให้มาทำงานที่ประเทศไทย โดยอ้างว่ามีงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี มีรายได้ดี มีที่พักให้ ซึ่งจะออกค่าเดินทางและค่าทำวีซ่า


นางสาวเค หลงเชื่อและเดินทางมาที่ประเทศไทย เพราะต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยและใช้แต่งงาน โดยคิดว่าจะมาทำงานที่ประเทศไทย 3 เดือน และเดินทางมาประเทศไทย วันที่ 21 พฤษภาคม พร้อมนางสาวเอ ผู้เสียหายคนที่ 2 โดยมีนางสาวดิโรรมคนมารับที่สนามบินและพาไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา

โดยมีนางแซมรัต อายุ 42 ปี ชาวอุซเบกิสถาน เป็นหัวหน้างานหรือแม่เล้า ข่มขู่และพูดจาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายขายบริการ โดยอ้างว่าผู้เสียหายเป็นหนี้ค่าเดินทางและค่าจัดทำวีซ่ากว่า 170,000 บาท และบังคับให้ค้าประเวณีวันละ 4 ครั้ง โดยให้ยืนหาลูกค้าริมชายหาดพัทยาตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น.ของอีกวัน หากไม่ทำตามคำสั่งก็จะถูกนางแซมรัตทำร้ายร่างกาย

ต่อมาวันที่ 10 มิถุนายน นางสาวเค ขอเบิกเงินและเดินทางกลับบ้าน แต่นางแซมรัตไม่ยอมให้กลับ โดยอ้างว่ายังติดหนี้ และวันที่ 16 มิถุนายน นางแซมรัต ได้พาหญิงสาวคนอื่นไปประเทศบาห์เรน นางสาวเค จึงตัดสินใจหนีออกมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากนางเอ็น ผู้เสียหายที่ 3 ให้เงินค่าแท็กซี่หลบหนีออกมา


เมื่อได้รับแจ้งตำรวจ ปคม.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พบผู้เสียหายเพิ่มอีก 2 คน ที่โรงแรมในพัทยา จึงได้เข้าช่วยเหลือและสอบปากคำ โดยขณะนี้องค์กรโอยูอาร์ได้รับตัวไว้ช่วยเหลือและคุ้มครองในฐานะผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

ส่วนนางแซมรัต แม่เล้า เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเดินทางไปที่ประเทศบาห์เรน ส่วนนางสาวดิโรรมคน ได้เดินทางออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน โดยเดินทางไปที่ประเทศมาเลเซีย ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับในข้อหาสมคบกันค้ามนุษย์ ร่วมกันเป็นธุระจัดหาบุคคลไปค้าประเวณี ส่วนนายนารุส ผู้ต้องหาอีก 1 คน ตำรวจจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งพบว่ากำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน

ผ่านฉลุย! สภาโหวตไว้วางใจ “นายกฯ แพทองธาร” 319 เสียง

สภาโหวตไว้วางใจ “แพทองธาร” นั่งนายกฯ ต่อฉลุย 4 สส.ปชป.งดออกเสียง และไร้เงา “รตอ.เฉลิม” แต่ได้แถมเสียงงูเห่ามา 7 เสียงจากไทยสร้างไทย-พปชร.และ “ปูอัด” ขณะที่นายกฯ ไหว้ขอบคุณ สส. หลังโหวต