กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – คปภ.เดินหน้ามาตรการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉลประกันภัย กำหนดกติกา การรายงานข้อมูลพฤติกรรมฉ้อฉลประกันภัย เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบประกันภัย และสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภค เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศฯ ถึง 15 มิ.ย.นี้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานฯ เห็นชอบหลักการของร่างประกาศ คปภ. เรื่องให้บริษัทประกันภัยยื่นรายงานเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1.ให้บริษัทประกันภัยนำส่งรายงานผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดการเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยของบริษัทเนื่องจากการกระทำความผิดที่อาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัยตามที่กำหนดเอาไว้ในกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิตและกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัยอันอาจเกิดจากบุคลากรของบริษัทประกันภัยเอง หรือลูกค้าของบริษัทประกันภัยที่ได้ทำการฉ้อฉลประกันภัยกับบริษัทประกันภัย เพื่อให้สามารถวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมการฉ้อฉลประกันภัย และกำหนดแนวทางในการยับยั้ง ป้องกัน ตรวจสอบ รายงานและบรรเทาความเสียหายจากการฉ้อฉล โดยกำหนดให้บริษัทประกันภัยรายงานภายใน 15 วันนับแต่วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาส
2.ให้บริษัทนำส่งรายงานพฤติกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีลักษณะเป็นการฉ้อฉลประกันภัยตามที่นายทะเบียนประกาศกำหนด ได้แก่ พฤติกรรมในขณะขอเอาประกันภัย เช่น ทำประกันภัยในวงเงินที่ไม่สัมพันธ์กับรายได้ หรือเอกสารประกอบการขอเอาประกันภัยไม่สอดคล้องกับที่ได้มีการกรอกในเอกสารขอทำประกันภัย พฤติกรรมในระหว่างอายุสัญญาประกันภัย เช่น ขอเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ในทันทีที่กรมธรรม์ประกันภัยเริ่มต้นคุ้มครอง พฤติกรรมในขณะที่เรียกร้องเงินหรือค่าสินไหมทดแทน เช่น ขอให้ชดใช้เงินเป็นการโอนเงินข้ามประเทศ หรือกระจายไปหลายบัญชี หรือเรียกร้องให้ชดใช้เงินจากการเสียชีวิตภายหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคร้ายแรง พฤติกรรมเฉพาะของสัญญาประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย เช่น ผู้รับผลประโยชน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของผู้เอาประกันภัยในสัญญาประกันชีวิต หรือสถานที่เกิดความเสียหายแก่รถยนต์เกิดขึ้นในบริเวณชนบทหรือไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์ พฤติกรรมของบุคลากรภายในบริษัท เช่น มีฐานะทางการเงินดีขึ้นโดยไม่มีที่มาที่ชัดเจน หรือมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรในด้านการเงินหรือการบัญชีบ่อยครั้ง พฤติกรรมของตัวแทนประกันภัยหรือนายหน้าประกันภัย หรือบุคคลภายนอก เช่น ตัวแทนประกันภัยหรือนายหน้าประกันภัยปลอมแปลงเอกสารของผู้เอาประกันภัย มีผู้ออกทุนให้มีการทำสัญญาประกันภัยโดยระบุผู้รับประโยชน์เป็นผู้ออกทุน บุคคลากรทางการแพทย์มีการออกเอกสารรับรองเท็จให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ โดยกำหนดให้บริษัทรายงานภายใน 15 วันนับแต่วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาส
ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยสามารถยื่นรายงานในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามช่องทางที่นายทะเบียนกำหนด และในกรณีที่บริษัทมีเหตุสุดวิสัย หรือประเทศประสบภัยพิบัติร้ายแรงหรือมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสาธารณชน ทำให้บริษัทไม่สามารถยื่นรายงานภายในกำหนดเวลาได้ ให้บริษัทแจ้งเหตุขัดข้องให้สำนักงานทราบ และเมื่อพฤติการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถยื่นรายงานนั้นสิ้นสุดลงแล้ว ให้บริษัทยื่นรายงานต่อสำนักงานภายใน 15 วันนับแต่วันที่พฤติการณ์หรือเหตุการณ์นั้นสิ้นสุดลง หรือตามระยะเวลาที่สำนักงาน คปภ. กำหนด
สำนักงานฯ จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน คปภ.(www.oic.or.th) ระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน 2563 เพื่อนำข้อคิดเห็นต่าง ๆ ไปปรับปรุงร่างประกาศฯ ให้มีความสมบูรณ์ก่อนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ คปภ.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป และในทางคู่ขนานจะบูรณาการร่วมกับทุกสมาคมด้านประกันภัยในการยกร่างแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉลประกันภัย เพื่อให้ขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉลประกันภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“การฉ้อฉลประกันภัยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้เบี้ยประกันภัยโดยรวมสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยที่ใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งประกาศฯ ฉบับดังกล่าวจะช่วยป้องปรามและตรวจสอบการฉ้อฉลประกันภัยทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบประกันภัยและสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภค” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย