หนุ่ม 23 ปี ถูกฆ่าฝังดิน เหลือแต่กระดูก

สงขลา 28 พ.ค.-ชายวัยรุ่นถูกฆ่าฝังดินภายในสวนมะพร้าว สภาพเหลือแต่กระดูก โดยพบหลักฐานสำคัญเป็นสร้อยข้อมมือแสตนเลสที่ใส่ติดตัวประจำ



บริเวณสวนมะพร้าวแหห่งหนึ่งในบ้านนาต้นปีก หมู่6 ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม จ.สงขลา ข้างๆ กระท่อมหลังนี้ พบร่องรอยการขุดหลุม ซึ่งน่าจะขุดไม่นานมานี้เพราะลักษณะดินยังใหม่ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของการเผาไหม้บนพื้นดินใกล้ๆกัน  ตรวจสอบบริเวณที่เป็นหลุมพบมีข้อมือโผล่ขึ้นมาจากดิน เจ้าหน้าที่จึงทำการขุดลงไป พบโครงกระดูกอีกหลายชิ้นแต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชิ้นส่วนใดของร่างกาย  เจ้าหน้าที่ขุดลงไปเรื่อยๆ เพื่อหาชิ้นส่วนกระดูกชิ้นอื่นๆ ว่าถูกฝังรวมไว้ในหลุมเดียวกัน หรือแยกฝัง  


นอกจากกระดูกมนุษย์แล้ว ภายในหลุมนี้ยังพบสร้อยข้อมือสแตนเลส 1 เส้นและเศษโทรศัพท์ที่ถูกเผา  ส่วนในกระท่อม พบใบกระท่อมภายในขวดน้ำอัดลมขนาด1 ลิตร2 ขวด อุปกรณ์เสพไอซ์ ถุงแบ่งไอซ์  และร่องรอยของการเสพยาเสพติด

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้ เสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร และมีการเผาหรือแยกชิ้นส่วนร่างกายเพื่อทำลายหลักฐานหรือไม่ 

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ซากกระดูกที่พบเป็นของ นายวรัญชิต หนูสันทัด อายุ 23 ปี หรือฟิล์ม ซึ่งมีบ้านพักอยู่ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร และเมื่อนางอังศุวีร์  ขุนหมุด อายุ 43 ปี แม่ และน.ส.ศุภรัศมิ์  พวงมาลา อายุ18 ปี หรือเหมี่ยว ซึ่งเป็นภรรยามาเห็นสร้อยข้อมือสแตนเลส ก็ยืนยันว่าเป็นสร้อยที่นายวรัญชิต ใส่เป็นประจำ และเชื่อว่าเป็น นายวรัญชิต ที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันที่9 พฤษภาคม ซึ่งครอบครัวได้แจ้งความไว้ที่สภ.นาหม่อม


นางอังศุวีร์ แม่ผู้ตาย เผยว่า หลังลูกชายหายไปตั้งแต่คืนวันที่9 พฤษภาคม ทุกครั้งที่มีข่าวพบผู้เสียชีวิต ตนก็จะเดินทางไปดูว่าเป็นลูกชายของตนหรือไม่ กระทั่งครั้งนี้ เห็นสร้อยข้อมือที่ลูกชายใส่ประจำ ซึ่งแฟนของลูกซื้อให้ ก็จำได้ทันที

ด้าน น.ส.ศุภรัสมิ์ หรือเหมียว ภรรยาผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ซากกระดูกที่พบเป็นสามีของเธอ เพราะจำสร้อยสแตนเลสได้ เนื่องจากเป็นคนซื้อให้เองและสามีใส่ตลอดไม่เคยถอด โดยคืนวันที่9 พฤษภาคม เมื่อสามีอาบน้ำเสร็จได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลยทั้งคนทั้งรถ  โดยครั้งสุดท้ายที่สามีแช็ตไลน์มาหาคือตอนเที่ยงคืน บอกว่า”รักเหมียวนะ รักเหมียวคนเดียวฟิล์มขอโทษและรักลูกทั้งสองคนนะ” หลังจากนั้นตอนตี 2 ได้ตอบไลน์กลับไปหาแต่ก็ไม่เปิดอ่านและโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย และที่กระท่อมแห่งนี้ เมื่อก่อนสามีมักจะมานั่งกับกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกัน6-7 คนเป็นประจำ แต่ช่วงหลังทราบว่าสามีเริ่มมีปัญหากับเพื่อนกลุ่มนี้และพยายามแยกตัวออกมา ซึ่งหลังจากที่หายตัวไปเพื่อนกลุ่มนี้ก็ไม่เคยมีใครหามาสามีหรือมาถามว่าสามีไปไหน ตนได้ติดต่อไปถามก็ไม่มีใครบอก  และในคืนเกิดเหตุก็คาดว่าน่าจะมาที่แห่งนี้

มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.นาหม่อม ได้ล็อกตัววัยรุ่นต้องสงสัย ซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันไปสอบสวนแล้ว 1 คน ส่วนสาเหตุก็น่าจะมีปัญหากับเพื่อนในกลุ่มนี้  ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดตามหลักฐานที่พบในขนำหรือไม่นั้นเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย