ธอส. มอบสายคล้องหน้ากากอนามัย 250,000 ชิ้น ให้ 5 รพ. ต้านภัย โควิด-19

กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารบ้านของคนไทย ส่งมอบสายคล้องหน้ากากอนามัย จำนวน 250,000 ชิ้น ให้แก่ 5 โรงพยาบาลของรัฐ ได้แก่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี  โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อบรรเทาความเจ็บจากการกดทับของสายหน้ากากอนามัยเมื่อใส่เป็นเวลานานให้กับบุคลากรทางการแพทย์และทุกสาขาอาชีพที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมมอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาล ร่วมใจ ต้านภัย COVID-19 จำนวนรวม 1,000,000 บาท และบริจาคสมทบทุนโครงการวิจัยและการจัดหาเครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวน 1,500,000 บาท 


นายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้จัดโครงการ “ร้อยพลังเล็ก สู่ล้านพลังยิ่งใหญ่ โดย ธอส.” เพื่อให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของ ธอส. ทั่วประเทศ หน่วยงานพันธมิตรผู้สูงอายุหรือผู้พิการในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ธนาคารให้การสนับสนุน รวมพลังประดิษฐ์สายคล้องหน้ากากอนามัย จำนวน 1,000,000 ชิ้น เพื่อมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนนำไปคล้องหน้ากากอนามัย เพื่อบรรเทาปัญหาการบาดเจ็บจากการถูกสายรัดหน้ากากอนามัยกดทับเป็นเวลานานระหว่างใส่ปฏิบัติหน้าที่นั้น โดยภายหลังจากที่เริ่ม Kick Off โครงการตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ล่าสุด ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของ ธอส. ได้ร่วมกันประดิษฐ์สายคล้องหน้ากากอนามัยได้แล้วเป็นจำนวนถึง 250,000 ชิ้น ทำให้ในวันที่ 28 พฤษภาคม และวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ธนาคารจึงได้มีกำหนดส่งมอบสายคล้องหน้ากากอนามัยที่ผ่านการอบฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้วให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนในโรงพยาบาลของรัฐ 5 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ แห่งละ 50,000 ชิ้น แบ่งเป็นการส่งมอบในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 2.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 3.โรงพยาบาลรามาธิบดี และ 4.โรงพยาบาลศิริราช ส่วนในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ธนาคารจะนำสายคล้องหน้ากากอนามัยไปส่งมอบให้กับโรงพยาบาลราชวิถีต่อไป พร้อมกันนี้ ธอส. ยังได้มอบเงินสนับสนุนเพื่อร่วมใจ ต้านภัย โควิด-19 ให้แก่ทั้ง 5 โรงพยาบาล ๆ ละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท และมอบงบประมาณสมทบทุน โครงการ “วิจัยและการจัดหาเครื่องมือแพทย์” ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวนเงิน 1,500,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่จำเป็นทางการแพทย์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการอำนวยความสะดวกในการรักษาและให้บริการประชาชน รวมถึงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้นต่อไป

“จากที่ได้ชมคลิปของ คุณยายประเพ็ญ ฮั่นตระกูล วัย 92 ปี นั่งทำสายคล้องหน้ากาอนามัยให้แพทย์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ ธอส. คิดว่ามันยิ่งใหญ่และสำคัญ จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ ธอส. ขอชื่นชมการทำหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทและเต็มกำลัง เพื่อดูแลรักษาให้บริการประชาชนตลอดระยะเวลาที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง และเราหวังว่าการจัดทำโครงการ “ร้อยพลังเล็ก สู่ล้านพลังยิ่งใหญ่ โดย ธอส.” จะถือเป็นหนึ่งในกำลังใจและสะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยที่พวกเราได้ส่งผ่านสายคล้องหน้ากากอนามัย ตามแนวคิดในการจัดทำโครงการเพื่อสังคมของ ธอส.คือ “ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่คือความห่วงใย” สอดคล้องกับ “บ้าน ธอส. ที่มีนโยบายสร้างรากฐานแห่งความสุข ความอบอุ่น “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และจะเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับ “คนไทย สังคมไทย เศรษฐกิจไทย และ แผ่นดินไทย” ในเชิงคุณภาพชีวิตของคนไทย” นายปริญญา กล่าว


ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 67 ปี ธอส. ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามควรแก่อัตภาพมาแล้วมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์/ศาสนา/ศิลปวัฒนธรรม และกีฬา โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน และปลูกจิตอาสาช่วยเหลือสังคมของพนักงานในองค์กร รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชน และสร้างสังคมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืน  . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร