ยธ.เร่งทำความเข้าใจ ก่อนใช้ชุมชนบำบัดผู้ติดยาเสพติด

กรุงเทพฯ 30 พ.ย.-รมว.ยธ. ยอมรับการให้ชุมชนมีส่วนร่วมบำบัดผู้ติดยาเสพติดในไทยยังทำยาก ต้องเร่งสร้างทำความเข้าใจ ส่วนกรณีการทำกัญชาให้ถูกกฎหมาย ต้องศึกษาให้รอบคอบ


ภาพข่าวไพบูลย์บนเวที (2)

 


 

 

 


พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) ร่วมงานเปิดตัว “คู่มือสำหรับผู้สอนเรื่องการให้บริการชุมชนสำหรับผู้ใช้ยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” โดยมีนายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พร้อมด้วยผู้แทนจากUNODC สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เข้าร่วม

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ในส่วนคู่มือที่ UNODC มีการวางแผนรูปแบบมาเป็นอย่างดีโดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะรูปแบบการรักษาทั่วโลก มักให้ความสำคัญกับการรักษา ที่ให้ถือว่าผู้ติดยาเสพติดไม่ใช่คนร้าย แต่ให้ถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องการบำบัดรักษาด้วยการสาธารณสุขที่สำคัญต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะผู้ติดยาเสพติด และติดยา ในชุมชนเพื่อให้เกิดการรักษาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการติดตามผลและการคืนผู้ป่วยสู่สังคม ตลอดจนสนับสนุนครอบครัวและชุมชนของผู้ป่วยให้เข้มแข็งในเกิดผลในระยะยาว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และตรงนโยบายกระทรวง

สำหรับปัญหาสำคัญเวลานี้ที่สามารถนำคู่มือเรื่องนี้มาใช้ คือ 1.นโยบายแห่งรัฐ เราจะสามารถมีกฎหมายในการดูคุ้มครองคนกลุ่มนี้ และในชุมชนไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมาได้หรือไม่ ซึ่งการแก้กฎหมายในเรื่องนี้อาจนำมาสู่ความสับสนในสังคมได้  2.เรื่องการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ เพราะการแก้เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นหน้าที่ตำรวจ หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยา เสพติด(ป.ป.ส.)อย่างเดียว ต้องมีหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสังคมร่วม และ 3.หน่วยงานด้านศาลที่จะทำหน้าที่ตัดสินให้ผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการรักษา ถ้าทั้ง 3 หน่วยงานสามารถทำงานร่วมกันได้จะนำพาไปสู่การเริ่มต้นที่ดี แต่การนำไปปฏิบัตินั้นอาจยังทำให้เกิดความเข้าใจ ที่คลาดเคลื่อน หรือเข้าใจผิดจากสังคม จึงต้องเร่งทำความใจให้กับสังคมมองคนกลุ่มนี้ใหม่

ส่วนเรื่องความเป็นไปได้ในการทำกัญชาให้ถูกกฎหมายในประเทศนั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า  เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษา และทราบดีถึงข้อดี และประโยชน์ของการนำใบกัญชามารักษาโรคตามวิถีดั้งเดิมของชาวบ้าน แต่ขณะเดียวกันไทยก็มีกฏหมายที่ระบุชัดเจนว่ากัญชาเป็นสารเสพติด ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ ตอนนี้ให้หน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวไปศึกษาถึงข้อดีข้อเสียให้รอบคอบเพราะไทยยังไม่เปิดกว้าง รับไม่ได้ในเรื่องนี้ยังไม่ได้ให้การศึกษาที่ดีแก่ประชาชน เยาวชน ในเรื่องการแยก แยะเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจ แม้อยากให้เกิดขึ้น แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่นโยบายรัฐต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท