กรุงเทพ ฯ 27 พ.ค.-นายกสมาคมภัตตาคารไทยยอมรับวิกฤติโควิด-19 ฉุดยอดขายร้านอาหารร่วง 80% เพราะรับลูกค้าได้จำนวนจำกัด และขัดกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่นิยมทานข้าวนอกบ้านร่วมกัน เพื่อพบปะสังสรรค์
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า แม้ว่ารัฐบาลจะคลายล็อกดาวน์ให้เปิดร้านอาหารได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤาภาคมที่ผ่านมา แต่ร้านอาหารต้องปฏิบัติตามมาตรฐานกลางและคู่มือที่ ศบค.กำหนดขึ้น โดยต้องมีการเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1 เมตร และจำกัดจำนวนคนเข้าร้านตามที่นั่งที่กำหนดไว้ ทำให้จำนวนลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารในร้านอาหารมีจำนวนน้อย และรับลูกค้าได้จำนวนจำกัด ประกอบกับลูกค้าที่มาพร้อมครอบครัว กลุ่มเพื่อน และ หมู่คณะ ถ้านั่งแยกที่นั่งกัน ก็จะสั่งผ่านเดลิเวอร์รี่ หรือทานอาหารที่บ้านมากกว่า ทำให้ยอดขายหน้าร้านลดลงไปถึง 80%
“ตามปกติไลฟ์สไตล์คนไทยนิยมทานข้าวนอกบ้าน เพื่อพบปะสังสรรค์ พูดคุย แต่การที่กำหนดให้นั่งทานอาหารโต๊ะละคน ทำให้ลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ไม่เข้ามาทานอาหารในร้าน และเลือกจะทานในบ้าน หรือ สั่งเดลิเวอร์รี่มากกว่า” นางฐนิวรรณ กล่าว
ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการจ่ายค่าเช่าร้าน และค่าจ้างพนักงาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายร้านต้องให้พนักงานสลับมาทำงานแบบวันเว้นวัน และจ่ายเงินเดือน 50%
นางฐนิวรรณ กล่าวว่า คงต้องรอดูการคลายล็อกดาวน์เฟส 3 และ 4 ที่จะเริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ว่าอาจจะมีการเปิดให้ร้านอาหารรับลูกค้าได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยร้านอาหารก็ยังคงต้องการบริการที่เป็นบรรทัดฐาน และระมัดระวัง ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการ จัดเจลแอลกอฮอลล์ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย