กทม.22 พ.ค.- สาวประเภทสอง แจ้งความโดนหนุ่มโรคจิต สไลด์หนอนโชว์ขอมีเพศสัมพันธ์บนรถประจำทางกรุงเทพ-กาญจนบุรี
จากกรณีปรากฏคลิปภาพชายช่วยตัวเองบนรถประจำทางต่อหน้าสาวประเภทสอง พร้อมกับชักชวนให้ลงจากรถไปมีเพศสัมพันธ์ โดยผู้เสียหายได้บันทึกภาพและนำมาโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเตือนภัยให้ระมัดระวัง วอนผู้ที่เห็นภาพชายคนดังกล่าวช่วยแจ้งตำรวจจับตัวโดยเร็ว เพราะมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสังคม
วันนี้ น้องลูกนัท อายุ 19 ปี นศ.สาวประเภทสอง ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความพร้อมนำหลักฐาน(คลิปภาพ)มอบให้ ร.ต.อ.วรสิทธิ์ กาศักดิ์พนักงานสอบสวน สน.ท่าพระ ช่วยราชการ สน.บางยี่ขัน หลังจากที่ถูกหนุ่มสไลด์หนอนโชว์บนรถประจำทางกรุงเทพ-กาญจนบุรี โดยผู้เสียหายได้ถ่ายคลิปบันทึกเหตุการณ์ไว้เพื่อให้เร่งจับตัวชายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
พ.ต.ท พัฒนพงษ์ วิฤทธิ์เตชะ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.บางยี่ขัน เปิดเผยว่าหลังสอบปากคำผู้เสียหายแล้วจะเรียกพนักงานงานขับรถมาสอบถามซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเร่งติดตามตัวชายที่ปรากฏในคลิปมาดำเนินคดีแล้ว เพราะมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสังคม
น้องลูกนัท กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ขึ้นรถคันดังกล่าวมาจากหน้าห้างโลตัส(นครไชยศรี) ช่วงเวลาประมาณ 16.00น. เพื่อเดินทางกลับบ้านพักย่านบางขุนนนท์ ขณะขึ้นรถมาสังเกตุเห็นชายที่ก่อเหตุสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ และมีการพูดคุยเหมือนจะสนิทสนมกัน ผู้เสียหายเดินเข้ามานั่งที่เบาะเดี่ยวช่วงกลางรถ ซึ่งต่อมาชายที่ก่อเหตุก็ลุกจากที่นั่งด้านหลังคนขับตามมานั่งที่เบาะด้านหลังแล้วเอื้อมมือมาจับตามตัวของผู้เสียหาย ก่อนที่จะย้ายมานั่งที่เบาะคู่ทางด้านขวา ซึ่งตรงกับที่นั่งของตน และพูดอยู่คนเดียว จากนั้นก็ใช้มือล้วงข้าไปในกางเกงแล้วนำอวัยวะเพศออกมาทำสไลด์โชว์ ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้ ซึ่งเมื่อรถมาจอดบริเวณป้ายหน้าห้างเมเจอร์ผู้เสียหายจึงลงจากรถ รีบขึ้นแท็กซี่กลับบ้านพักทันที ก่อนจะตัดสินใจนำคลิปมาลงเตือนภัยผู้ใช้รถสาธารณะให้ระวังอันตรายจากบุคคลประเภทนี้ ซึ่งถือว่าเป็นภัยสังคม ส่วนผู้ที่ได้เห็นคลิปแล้วจะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรก็แล้วแต่วิจารณญาน แต่สำหรับผู้เสียหายมองว่า ไม่ว่าใครก็ตามจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือสาวประเภทสอง หรือเพศใดก็ไม่มีสิทธิที่จะไปกระทำต่อบุคคลอื่นในลักษณะแบบนี้ หากมีอาการป่วยทางจิตก็ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาจะดีกว่า.-สำนักข่าวไทย