กกต.-สธ.วางมาตรการป้องกันโควิด-19 ในหน่วยเลือกตั้งซ่อมเขต 4 ลำปาง

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กกต.-สธ.วางมาตรการป้องกันโควิดในหน่วยเลือกตั้งรองรับเลือกตั้งซ่อมเขต 4 ลำปาง ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง –กปน ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา อิทธิพร มั่นใจกระบวนการป้องกันโควิดและสร้างความมั่นใจให้ปชช.ที่ออกมาใช้สิทธิ เสนอรัฐออกข้อกำหนดให้จนท.ทำงานเกินเวลาเคอร์ฟิว


นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาตรวจดูการจัดหน่วยเลือกตั้งจำลอง และการนับคะแนนจำลอง  ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะให้ กกต.จังหวัดลำปาง ใช้เป็นรูปแบบในการจัดหน่วยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4  ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 มิ.ย.  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยการจัดหน่วยจะเน้นการเว้นระยะห่างในแต่ละจุดภายในหน่วยประมาณ 2 เมตร  ซึ่งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า  Face Shield และถุงมือยาง ตลอดเวลาของการปฏิบัติหน้าที่   ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อมาใช้สิทธิ์จะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และรอที่จุดพักคอย ที่จะมีการจัดเก้าอี้เว้นระยะห่างไว้  จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการตรวจสอบรายชื่อ   ตรวจวัดอุณหภูมิ  ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์  โดยในจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่  อสม. มาเป็นผู้ตรวจ หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 จะถูกแยก ให้ไปใช้สิทธิ์ยังหน่วยเลือกตั้งพิเศษที่อยู่ใกล้เคียง

ส่วนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ผ่านการตรวจอุณหภูมิ จะเข้าไปยังจุดตรวจสอบสิทธิ์เลือกตั้ง ที่จุดนี้ถือเป็นจุดสำคัญ เพราะนอกจากจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้กรรมการประจำหน่วยตรวจสอบแล้ว  จะต้องเปิดหน้ากากเพื่อยืนยันตัวตนก่อนเซ็นชื่อรับบัตรเลือกตั้ง และเข้าคูหาใช้สิทธิ โดยจะต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ในทุกขั้นตอน  ขณะที่กรรมการประจำหน่วยก็จะต้องทำความสะอาดโต๊ะและอุปกรณ์ ทุก 15 นาที ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เพราะในจุดนี้ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องสัมผัสใบหน้าในระหว่างการเปิดหน้ากากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และเซ็นต์ชื่อ  รวมทั้งหลังใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้วก็ต้องล้างมือก่อนออกจากคูหาเลือกตั้ง  โดยทุก 1 ชั่วโมง กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในบริเวณหน่วยเลือกตั้ง  และทำความสะอาดคูหาลงคะแนน หลังผู้ใช้สิทธิ์ใช้สิทธิ์ไปแล้ว 4-5 คน ต้องทำความสะอาดทันที


ส่วนผู้ใช้สิทธิ์ในหน่วยเลือกตั้งพิเศษ คือ มีอุณหภูมิในร่างกายเกิน 37.5  เมื่อจะใช้สิทธิ์ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน  เพื่อไม่ให้ผู้มีสิทธิ์คนดังกล่าวต้องไปสัมผัสกรรมการคนอื่นๆ   และเมื่อใช้สิทธิ์เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะเร่งทำความสะอาดอุปกรณ์และคูหาทันที  เมื่อออกจากคูหาแล้วผู้มีสิทธิ์ที่อุณหภูมิเกิน 37.5 องศาจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมารับตัวเพื่อไปตรวจสอบว่าจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคหรือไม่

ทั้งนี้มีการประเมินว่าการใช้สิทธิ์ของประชาชนจากเดิม ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 4 นาทีต่อหนึ่งคน  อาจต้องใช้เวลามากกว่าเดิมคือ 6-10 นาที ต่อคน แต่ได้มีการประสานให้กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ไปประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในแต่ละหมู่บ้านทยอยมาใช้สิทธิในเวลาที่มีการขอความร่วมมือ  และจากการที่มีการเพิ่มหน่วยลงคะแนนจาก 321 หน่วย เป็น 400 หน่วย ทำให้แต่ละหน่วยมีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่เกิน 400 คน  เพื่อลดความแออัด ก็เชื่อว่าน่าจะทำให้การใช้สิทธิ์ไม่เกิดปัญหา

ส่วนการอบรมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ทางสำนักงานก็ได้เปลี่ยนรูปแบบจากเดิมจากที่จัดอบรมที่อำเภอ  เปลี่ยนไปอบรมที่ตำบลแทน และกำหนดให้อบรมรุ่นละไม่เกิน 5-7 หน่วย   รวมถึงการรับ-ส่งอุปกรณ์ด้วยก็ให้มีการรับที่ตำบล     อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งซ่อม จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 40%  จากเดิมใช้งบประมาณเลือกตั้งซ่อมแต่ละครั้ง  10-13 ล้านบาท  โดยการจัดหน่วยเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นรูปแบบที่จะนำไปใช้หากจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7  สมุทรปราการที่ศาลจะมีคำตัดสินในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้


นายอิทธิพร  กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต. ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยมีการทำแผนจัดการเลือกตั้ง  ในสถานการณ์โควิด-19 ไว้ และเมื่อต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 ลำปาง ก็ได้นำแผนมาเพิ่มเติมในรายละเอียด โดยคงหลักการว่าต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด แต่เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เกิดความสบายใจและปลอดภัย จึงได้ขอความร่วมมือ ทางกรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้รองอธิบดีเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้นอกจากจะมีการขยายพื้นที่หน่วย ก็จะมีการเพิ่มหน่วยเลือกตั้งจากเดิม 321 เป็น 400 หน่วย เพื่อให้เหลือผู้ใช้สิทธิ์ต่อหน่วยไม่เกิน 400 คน  เป็นมาตรการเว้นระยะห่าง และขอความร่วมมือให้ผู้มีสิทธิ์ทยอยมาใช้สิทธิ์ตามเวลาที่ กกต.ลำปางได้ขอความร่วมมือ โดยผู้มาใช้สิทธิ์จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่มีการจัดเตรียมไว้ ซึ่งในชั้นนี้สิ่งที่กกต. กำหนดเป็นมาตรการที่ได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่าจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกิดความมั่นใจ และมาใช้สิทธิ์ 

นพ.อัษฎางค์ กล่าวว่า จากการดูการจำลองหน่วยเลือกตั้ง  พบว่ามาตรการที่ กกต.ทำขึ้นก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจปลอดภัยต่อประชาชนที่จะมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เราได้ให้คำแนะนำ ซึ่งก็จะมีการประสานกับสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ให้เข้าไปสนับสนุนภารกิจของ กกต.ในครั้งนี้  ถ้าเจ้าหน้าที่และผู้มีสิทธิ์ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ก็เชื่อว่าทุกคนจะได้รับความปลอดภัย  

นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงการรับสมัครเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.)  ว่า ให้จัดพื้นที่รับสมัคร ไม่น้อยกว่า 7 ตารางเมตร ต่อ 5 คน โดยให้ผู้สมัครมีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 5 คน หลังรับสมัครแล้ว ผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถหาเสียงได้ตามปกติโดยยึดตามกฎหมายเลือกตั้ง และระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียง  ส่วนการจัดเวทีปราศรัยสามารถทำได้  หากผู้สมัครมีสถานที่และสามารถดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามนโยบายของรัฐบาลได้ เช่นการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากอนามัย และมีเจลแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือ

จากนี้ กกต.ได้มีการประสานขอให้รัฐบาลออกข้อกำหนด เพื่อขยายเวลาเคอร์ฟิวในพื้นที่เขตเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง เพื่อรองรับการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และจะมีการประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด  ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติการเลือกตั้งจำนวนเท่าใด  ที่จะต้องทำงานเกินกว่าเวลาเคอร์ฟิว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

‘เท้ง’ ยันแกนนำ ปชน. ไม่มีธงโหวตนายกฯ

1 ก.ย.- ‘เท้ง ณัฐพงษ์’ ยืนยันแกนนำพรรคประชาชน ไม่มีธงโหวตเลือกนายกฯ เปิดโอกาสถกเต็มที่ ย้ำได้ข้อยุติก่อนวันโหวตแน่นอน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรค พร้อมเปิดเผยก่อนการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดทิศทางในการผ่าทางตันโหวตนายกรัฐมนตรี โดยแนวทางในวันนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง ส่วนจะต้องมีการลงมติหรือไม่ ถือว่าอยู่ที่การหารือของที่ประชุม เพราะหากเราสามารถหารือกันได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันได้ อาจจะไม่จำเป็น แต่ตอนนี้ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่ สำหรับเงื่อนไขที่จะทำให้ไม่สามารถเคาะทิศทางโหวตได้ในวันนี้นั้น มีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งความเสี่ยงของฉากทัศน์ต่างๆ ตนขอยังไม่ลงรายละเอียดในตอนนี้ดีกว่า เมื่อถามถึงกระแสผู้สนับสนุนพรรค ที่อยากให้ยึดจุดยืน โดยไม่เลือกพรรคไหนเลยนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ทุกอย่างควรพิจารณาทั้งหมด ส่วนคาดว่าจะมีการโหวตได้เมื่อไหร่ หรือจะมีการเซอร์ไพรส์ไม่โหวตเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคงไปตอบแทนเพื่อน สส. รวมถึงองคาพยพของพรรคไม่ได้ เพราะในตอนนี้เป็นโอกาสที่ต้องหารือภายในกันให้รอบด้าน อาจให้คำตอบได้แค่ว่า จะพยายามหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด รอเย็นวันนี้ก่อน น่าจะได้ความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนคงได้รับฟังเสียงสะท้อน ทั้งความคิดเห็นในออนไลน์ และออฟไลน์ เมื่อถามว่านายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้มีการติดต่อมาคุยหรือยัง เนื่องจากไม่ได้มาหารือพร้อมกับพรรคเพื่อไทย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มี […]

เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้

พรรคเพื่อไทย 1 ก.ย.-เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค แยกปฏิบัติภารกิจแต่ละกระทรวง รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้ ด้าน “ชัยเกษม” ลั่นไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม เพื่อชาติบ้านเมืองไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) แกนนำ ซึ่งนำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้านายกรัฐมนตรี นำคณะเจรจาแกนนำไปพูดคุยขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ช่วงเช้าไม่พบแกนนำพรรคเดินทางเข้ามา โดยจากการสอบถามทุกคนยังคงปฏิบัติภารกิจตามงานของกระทรวง มีเพียงสื่อมวลชนที่เข้ามาเกาะติดสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพรรคประชาชนมีมติออกมาว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ฝ่ายใดนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย จะมีความเคลื่อนไหวออกมาแน่นอน ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนเองมีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไร ก็ว่ากันไปตามนั้น “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ตนพร้อมทำหน้าที่ เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา” นายชัยเกษม กล่าว ส่วนเรื่องการยอมรับเงื่อนไขจากพรรคประชาชน นั้น นายชัยเกษม ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้ และถือว่าให้เป็นไปตามมติของแกนนำพรรค.-316.-สำนักข่าวไทย

วางบึ้ม-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุด จ.นราธิวาส

นราธิวาส 1 ก.ย.-ใต้ป่วนหนัก วางระเบิด-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุดในพื้นที่นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับภาพชัด เจ็บ 2 ราย รายงานข่าวจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค.68 ถึงเวลา 00.30 น. ของคืนวันที่ 1 ก.ย.68 ได้มีกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้มีการประชุมวางแผนกระจายกำลังกันก่อเหตุเผายางรถยนต์ และลอบวาระเบิดในพื้นที่ 5 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.สุไหงปาดี, จะแนะ, บาเจาะ, เจาะไอร้องและศรีสาคร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จำนวน 6 จุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย รถยนต์ได้รับความเสียหาย 1 คัน พร้อมกันพื้นที่จุดเกิดเหตุและได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าทำการตรวจสอบในช่วงสายของวันนี้ โดยจุดแรก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ […]

“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย

กทม. 1 ก.ย.-“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย เผยชีวิตนี้ผ่านอะไรมาเยอะ ยันทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่เพื่อตนเอง หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อไปและทำงานให้หนักขึ้น จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวานนี้ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ปรากฎว่า พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานมีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง สำหรับคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็ยินดีและดีใจด้วย อย่าง พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน มองว่าหากตนเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์และให้มีการแก้ไขก็คงแก้ยากเพราะทุกคนไม่มีรายชื่อเข้าไป เพราะฉะนั้นตนเองก็เห็นด้วยที่ ก.ตร. เข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่ตนเองไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อส่วนรวมและให้ระบบเดินต่อไปได้เป็นสิ่งที่ดี และอยากสร้างมาตรฐานอีกหนึ่งอย่างคือ อยากเห็นแนวทางการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถ อยากให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หาแนวทางในการให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่จะมีการแต่งตั้งในระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการในปีต่อไป หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าการพิจารณาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กและชุดใหญ่ ควรนำหลักการอะไรมาพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ตำรวจและส่วนรวมได้มีความมุมานะในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน […]