กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – เผย 15 บริษัท ผลิต PPE ใช้ซ้ำได้ ผ่านมาตรฐานสาธารณสุข พร้อมส่งออกทั่วโลกสู้โควิด-19
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา เลขานุการคณะอนุกรรมการป้องกันการระบาด COVID-19 ภายใต้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ COVID-19 ภาคอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทย 15 ราย สามารถผลิตชุด PPE แบบเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) รุ่น “เราสู้ ” ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานทางสาธารณสุขและได้รับการจัดซื้อโดยองค์การเภสัชกรรมของไทย เตรียมพร้อมส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปใช้ สำหรับชุด PPE ใช้ซ้ำได้เหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในระดับความเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง การทำหัตถการที่มีเลือดกระเด็นใส่เล็กน้อย การใช้ในห้องปฏิบัติการ หรือสำหรับแพทย์และเจ้าหน้าที่ซักประวัติ เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจในการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อเชิงรุกในชุมชน
สำหรับคุณสมบัติและมาตรฐานชุด PPE ที่ผลิตนั้นได้ผ่านมาตรฐาน AAMI PB70 LEVEL2 โดยการทดสอบของสถาบันสิ่งทอ (THTI) และผ่านมาตรฐานสาธารณสุข โดยมีคุณสมบัติกันน้ำได้ตามมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ANSI/AAMI PB70 Level 2 ซึ่งแสดงผลความสามารถต้านการซึมผ่านของน้ำที่มีแรงดัน (Hydrostatic Pressure) AATCC 127 > 20 cm.-H2O และผ่านการทดสอบการทะลุผ่านของน้ำ (Water Penetration) AATCC 42 < 1.0g และระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ ชุด PPE ยังสามารถซักฆ่าเชื้อทำความสะอาด และใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง โดยการซักด้วยสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ (Sodium Hypochlorite 0.1%) และอบร้อน แต่ห้ามใช้กับน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย 15 บริษัท ผลิตชุด PPE ที่ผ่านการรับรองจาก อย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางองค์การเภสัชกรรมได้มีการจัดซื้อจัดจ้างชุด PPE แล้ว โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบองค์การเภสัชกรรม 44,000 ชุด เสร็จสิ้นเดือนนี้ ผู้ประกอบการพร้อมปรับกำลังผลิต เพื่อรองรับการระบาดรอบ 2 หรือนำส่งออกให้ประเทศที่ยังมีการระบาดหนัก โดยมีกำลังผลิต 4 เดือน กว่า 1,000,000 ชุด
สำหรับในอนาคตสิ่งที่สังคมต้องการ คือ มาตรฐานทางสาธารณสุขดีขึ้น เพื่อการปกป้องจากการระบาดของโรคต่าง ๆ ที่อาจจะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าครั้งนี้ โดยความสำเร็จในการพัฒนาชุด PPE รุ่น “เราสู้” ถูกนำไปใช้ในแวดวงการแพทย์ขณะนี้จะเป็นต้นแบบและการขยายผลสำหรับการพัฒนาชุดต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น ภาคบริการที่ผู้ให้บริการต้องมีชุดที่สามารถทำความสะอาดได้รวดเร็ว ทันทีและสะดวก เพื่อให้ทั้งผู้ที่ให้บริการ และผู้รับบริการมีความมั่นใจว่ามีความปลอดภัยอย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นการยกระดับด้านสุขอนามัยของประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://ftiebusiness.com/.-สำนักข่าวไทย
