ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองที่เข้ารับ-พ้นจากตำแหน่ง

สำนักงานป.ป.ช. 19 พ.ค.-สำนักงานป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน ส.ส.ป้ายแดง “เพชรภูมิ” มีเงินฝาก 721 บาท รถ 2 คัน  “พรรณิการ์” มีทรัพย์สิน 3 ล้าน เงินเพิ่มช่วงเป็น ส.ส. 6 พันบาท  ส่วน “ปิยบุตร-สุรชัย-เจนวิทย์-จารุวรรณ” ขอขยายเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินฯ


สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จำนวน 9 ราย ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม – 17 มิถุนายน 2563 โดยกรณีส.ว.พ้นจากตำแหน่ง คือ นายอุดม คชินทร พ้นตำแหน่งวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 แจ้งว่ามีรายได้รวม 3,005,025 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 483,545 บาท  เงินประจำตำแหน่ง ส.ว. 824,225 บาท เงินปันผลหุ้น 252,500 บาท รายจ่ายรวม 5,403,000 บาท เป็นค่าเล่าเรียนบุตร(ต่างประเทศ) 2,000,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 1,200,000 บาท เงินบริจาค 698,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 400,000 บาท 

ตำแหน่งปัจจุบันในหน่วยงานอื่น คือ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 และตำแหน่งศาสตารจารย์คลินิกเกียรติคุณ ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  ทั้งนี้ มีทรัพย์สินรวม 59,327,577 บาท แบ่งเป็นของผู้ยื่น 16,331,207 บาท เงินฝาก 858,677 บาท เงินลงทุน 9,982,529 บาท ที่ดิน 1,190,000 บาท  โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,300,000 บาท 


ส่วนทรัพย์สินของคู่สมรส มูลค่า 42,996,369 บาท เป็นเงินฝาก 18,917,611 บาท ที่ดิน 11,685,250 บาท เงินลงทุน 9,935,508 บาท ไม่มีหนี้สิน 

กรณี ส.ส.เข้ารับตำแหน่ง 2 ราย ประกอบด้วย นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563  แจ้งว่ามีรายได้ประจำจากตำแหน่งส.ส. จำนวน 122,196 บาท ทรัพย์สินรวม 1,129,145 บาท โดยแจ้งทรัพย์สินเพียง 2 ส่วน คือ เงินฝาก 721 บาท ยานพาหนะ 2 รายการ  มูลค่ารวม 1,128,425 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 978,425 บาท เท่ากับว่านายเพชรภูมิมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 150,000 บาท   

ส่วนนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 แจ้งว่ามีรายได้ 183,560 บาท แบ่งเป็นค่าตอบแทน ส.ส.113,560 บาท รายได้จากการค้าขายจากตลาด 70,000 บาท ต่อเดือน  ส่วนค่าใช้จ่ายรวม 2,700,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 300,000 บาท และค่าใช้จ่ายในพรรค (ฐานะหัวหน้าพรรค) 2,400,000 บาทต่อปี  ทั้งนี้ มีทรัพย์สินรวม 5,653,549 บาท แบ่งเป็นเงินสด 2,305,000 บาท เงินลงทุน 7,549 บาท เงินให้กู้ยืม 1,000,000 บาท(ทำตลาดลงหุ้นส่วน) โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 300,000 บาท ยานพาหนะ 1,200,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 841,000 บาท โดยทรัพย์สินอื่นประกอบด้วย แหวนเพชรทองคำขาว 1 รายการ 145,000 บาท  แหวนพลอยล้อมเพชร 2 รายการ 252,000 บาท พระพุทธรูป  พระเครื่องรวม 17 รายการ 100,000 บาท ส่วนหนี้สินรวม 3,602,928 บาท 


กรณีพ้นตำแหน่ง 6 ราย  ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่พ้นตำแหน่งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563  พร้อมกันทั้งหมด โดยประกอบด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 3,326,293 บาท  แบ่งเป็นเงินฝาก 104,045 บาท เงินลงทุน 857,748 บาท ยานพาหนะ รถยนต์ 2 คัน มูลค่า 1,400,000 บาท  ทรัพย์สินอื่น 964,500 บาท หนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ รวม 559,091 บาท   เมื่อเทียบกับเมื่อครั้งยื่นเข้ารับตำแหน่งส.ส.เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 3,319,567 บาท เท่ากับว่า น.ส.พรรณิการ์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 6,726 บาท

พล.ท.พงศกร รอดชมพู แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 10,936,970 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 778,207 บาท เงินลงทุน 1,353,400 บาท ที่ดิน 5,000,000 บาท  โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,000,000 บาท ยานพหนะ 300,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 196,363 บาท ทรัพย์สินอื่น 309,000 บาท หนี้สินรวม 23,595,473 บาท โดบแบ่งเป็น เงินเบิกเกินบัญชี 40,498 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 22,539,924 บาท  ส่วนใหญ่หนี้สินจากการเป็นลูกหนี้ของพ.ท.หญิง ฐิติยา รังสิตพล  ส่วนหนี้สินอื่น 1,015,050 บาท  รวมมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 12,658,503บาท 

น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 7,427,518 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินผู้ยื่น 4,347,585 บาท โดยเป็นเงินฝาก 3,883 บาท เงินลงทุน 517,702 บาท ที่ดิน 1,540,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,500,000 บาท ยานพาหนะ 210,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 100,000 บาท  และทรัพย์สินอื่น 476,000 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 3,079,933 บาท ส่วนหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวม 4,013,153 บาท 

นายนิรามาน สุไลมาน แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 89,476,547 บาท แบ่งเป็นของผุ้ยื่น 8,151,237 บาท  โดยเป็นเงินฝาก 111,237 บาท ที่ดิน 1,820,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6,000,000 บาท  ยานพาหนะ 220,000 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 81,307957 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มูลค่ากว่า 78,616,201 บาท และทรัพย์สินบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 17,352 บาท  ส่วนหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 173,864 บาท 

ด้านนายชำนาญ จันทร์เรือง แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 66,670,307 บาท  แบ่งเป็นของผู้ยื่น 26,784,975 บาท โดยเป็นเงินฝาก 166,975 บาท ที่ดิน 25,378,000 บาท 1,140,000 บาท ยานพาหนะ 100,000 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 39,885,332 บาท  ส่วนใหญ่เป็นที่ดินมูลค่ากว่า 30,176,100 บาท หนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวม 799,319 บาท  

น.ส.เยาวลักษณ์ วงประภารัตน์ แจ้งมีทรัพย์สินรวม 4,522,936 บาท  แบ่งเป็นเงินฝาก 15,436 บาท  ที่ดิน 2,600,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 200,000 บาท ยานพาหนะ 170,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 337,500 บาท หนี้สินจากเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น และหนี้บัตรเครดิต รวม 1,732,077 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่เป็น ส.ส. ที่เหลือ ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล  นายสุรชัย ศรีสารคาม  นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ และน.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ได้ยื่นขอขยายเวลาการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้พ้นส.ส.จากคดีถือหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย เมื่อปลายปี 2562 ตามคำพิพากษาของศาลถือว่านายธนาธรไม่มีคุณสมบัติจะดำรงตำแหน่ง ส.ส. มาตั้งแต่ต้น ดังนั้น จึงไม่ต้องยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. เมื่อพ้นจากตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้