ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองที่เข้ารับ-พ้นจากตำแหน่ง

สำนักงานป.ป.ช. 19 พ.ค.-สำนักงานป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน ส.ส.ป้ายแดง “เพชรภูมิ” มีเงินฝาก 721 บาท รถ 2 คัน  “พรรณิการ์” มีทรัพย์สิน 3 ล้าน เงินเพิ่มช่วงเป็น ส.ส. 6 พันบาท  ส่วน “ปิยบุตร-สุรชัย-เจนวิทย์-จารุวรรณ” ขอขยายเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินฯ


สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จำนวน 9 ราย ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม – 17 มิถุนายน 2563 โดยกรณีส.ว.พ้นจากตำแหน่ง คือ นายอุดม คชินทร พ้นตำแหน่งวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 แจ้งว่ามีรายได้รวม 3,005,025 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 483,545 บาท  เงินประจำตำแหน่ง ส.ว. 824,225 บาท เงินปันผลหุ้น 252,500 บาท รายจ่ายรวม 5,403,000 บาท เป็นค่าเล่าเรียนบุตร(ต่างประเทศ) 2,000,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 1,200,000 บาท เงินบริจาค 698,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 400,000 บาท 

ตำแหน่งปัจจุบันในหน่วยงานอื่น คือ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 และตำแหน่งศาสตารจารย์คลินิกเกียรติคุณ ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  ทั้งนี้ มีทรัพย์สินรวม 59,327,577 บาท แบ่งเป็นของผู้ยื่น 16,331,207 บาท เงินฝาก 858,677 บาท เงินลงทุน 9,982,529 บาท ที่ดิน 1,190,000 บาท  โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,300,000 บาท 


ส่วนทรัพย์สินของคู่สมรส มูลค่า 42,996,369 บาท เป็นเงินฝาก 18,917,611 บาท ที่ดิน 11,685,250 บาท เงินลงทุน 9,935,508 บาท ไม่มีหนี้สิน 

กรณี ส.ส.เข้ารับตำแหน่ง 2 ราย ประกอบด้วย นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563  แจ้งว่ามีรายได้ประจำจากตำแหน่งส.ส. จำนวน 122,196 บาท ทรัพย์สินรวม 1,129,145 บาท โดยแจ้งทรัพย์สินเพียง 2 ส่วน คือ เงินฝาก 721 บาท ยานพาหนะ 2 รายการ  มูลค่ารวม 1,128,425 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 978,425 บาท เท่ากับว่านายเพชรภูมิมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 150,000 บาท   

ส่วนนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 แจ้งว่ามีรายได้ 183,560 บาท แบ่งเป็นค่าตอบแทน ส.ส.113,560 บาท รายได้จากการค้าขายจากตลาด 70,000 บาท ต่อเดือน  ส่วนค่าใช้จ่ายรวม 2,700,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 300,000 บาท และค่าใช้จ่ายในพรรค (ฐานะหัวหน้าพรรค) 2,400,000 บาทต่อปี  ทั้งนี้ มีทรัพย์สินรวม 5,653,549 บาท แบ่งเป็นเงินสด 2,305,000 บาท เงินลงทุน 7,549 บาท เงินให้กู้ยืม 1,000,000 บาท(ทำตลาดลงหุ้นส่วน) โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 300,000 บาท ยานพาหนะ 1,200,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 841,000 บาท โดยทรัพย์สินอื่นประกอบด้วย แหวนเพชรทองคำขาว 1 รายการ 145,000 บาท  แหวนพลอยล้อมเพชร 2 รายการ 252,000 บาท พระพุทธรูป  พระเครื่องรวม 17 รายการ 100,000 บาท ส่วนหนี้สินรวม 3,602,928 บาท 


กรณีพ้นตำแหน่ง 6 ราย  ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่พ้นตำแหน่งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563  พร้อมกันทั้งหมด โดยประกอบด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 3,326,293 บาท  แบ่งเป็นเงินฝาก 104,045 บาท เงินลงทุน 857,748 บาท ยานพาหนะ รถยนต์ 2 คัน มูลค่า 1,400,000 บาท  ทรัพย์สินอื่น 964,500 บาท หนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ รวม 559,091 บาท   เมื่อเทียบกับเมื่อครั้งยื่นเข้ารับตำแหน่งส.ส.เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 3,319,567 บาท เท่ากับว่า น.ส.พรรณิการ์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 6,726 บาท

พล.ท.พงศกร รอดชมพู แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 10,936,970 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 778,207 บาท เงินลงทุน 1,353,400 บาท ที่ดิน 5,000,000 บาท  โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,000,000 บาท ยานพหนะ 300,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 196,363 บาท ทรัพย์สินอื่น 309,000 บาท หนี้สินรวม 23,595,473 บาท โดบแบ่งเป็น เงินเบิกเกินบัญชี 40,498 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 22,539,924 บาท  ส่วนใหญ่หนี้สินจากการเป็นลูกหนี้ของพ.ท.หญิง ฐิติยา รังสิตพล  ส่วนหนี้สินอื่น 1,015,050 บาท  รวมมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 12,658,503บาท 

น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 7,427,518 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินผู้ยื่น 4,347,585 บาท โดยเป็นเงินฝาก 3,883 บาท เงินลงทุน 517,702 บาท ที่ดิน 1,540,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,500,000 บาท ยานพาหนะ 210,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 100,000 บาท  และทรัพย์สินอื่น 476,000 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 3,079,933 บาท ส่วนหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวม 4,013,153 บาท 

นายนิรามาน สุไลมาน แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 89,476,547 บาท แบ่งเป็นของผุ้ยื่น 8,151,237 บาท  โดยเป็นเงินฝาก 111,237 บาท ที่ดิน 1,820,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6,000,000 บาท  ยานพาหนะ 220,000 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 81,307957 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มูลค่ากว่า 78,616,201 บาท และทรัพย์สินบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 17,352 บาท  ส่วนหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 173,864 บาท 

ด้านนายชำนาญ จันทร์เรือง แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 66,670,307 บาท  แบ่งเป็นของผู้ยื่น 26,784,975 บาท โดยเป็นเงินฝาก 166,975 บาท ที่ดิน 25,378,000 บาท 1,140,000 บาท ยานพาหนะ 100,000 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 39,885,332 บาท  ส่วนใหญ่เป็นที่ดินมูลค่ากว่า 30,176,100 บาท หนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวม 799,319 บาท  

น.ส.เยาวลักษณ์ วงประภารัตน์ แจ้งมีทรัพย์สินรวม 4,522,936 บาท  แบ่งเป็นเงินฝาก 15,436 บาท  ที่ดิน 2,600,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 200,000 บาท ยานพาหนะ 170,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 337,500 บาท หนี้สินจากเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น และหนี้บัตรเครดิต รวม 1,732,077 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่เป็น ส.ส. ที่เหลือ ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล  นายสุรชัย ศรีสารคาม  นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ และน.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ได้ยื่นขอขยายเวลาการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้พ้นส.ส.จากคดีถือหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย เมื่อปลายปี 2562 ตามคำพิพากษาของศาลถือว่านายธนาธรไม่มีคุณสมบัติจะดำรงตำแหน่ง ส.ส. มาตั้งแต่ต้น ดังนั้น จึงไม่ต้องยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. เมื่อพ้นจากตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]