เริ่มแล้ว ! โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 2 ให้ทุนเด็กเรียนครูป้อนโรงเรียนชุมชน 301 อัตรา

กรุงเทพฯ 13พ.ค..-กสศ. เดินหน้าโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 2 ให้ทุนเด็กเรียนครูป้อนโรงเรียนของชุมชน 301 อัตรา กำหนดลงพื้นที่ค้นหา คัดกรองเด็ก ก.ย. นี้ ตั้งเป้าให้เป็นการปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ต้นน้ำ


ดร.อุดม วงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพครู นักศึกษาครู และสถานศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ) กล่าวว่า บอร์ด กสศ. เห็นชอบแผนการทำงานโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 2 ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเชิญชวนสถาบันอุดมศึกษาที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งว่ามีอัตราครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลที่จะสามารถบรรจุเป็นครูได้รวม 301 อัตรา ในพื้นที่ 45 จังหวัด ใกล้เคียงรุ่นแรก ซึ่งจะยังคงเน้นผลิตบุคลากรครูในสาขาปฐมวัยและประถมศึกษาเหมือนเดิม


อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์ COVID-19  กสศ. ได้ปรับแนวทางการทำงานทั้งการรับข้อเสนอจากสถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการตามประกาศ โดยจะมีการเวิร์คช็อปผ่านระบบ ZOOM ร่วมกับสถานศึกษาครั้งแรกในวันที่ 22 พ.ค.นี้ จากนั้นจะพิจารณาและคัดเลือกสถาบันเข้าร่วมโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.  และเริ่มคัดเลือกเด็กในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ซึ่งแต่ละสถาบันการศึกษาจะลงพื้นที่ค้นหา คัดกรอง เพื่อให้ได้รายชื่อเด็กที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมดในเดือน ม.ค. 2564

ดร.อุดม กล่าวต่อไปว่า หนึ่งในแนวคิดหลักของโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น คือการสร้างบัณฑิตครูคุณภาพพร้อมให้กลับไปสอนรุ่นน้องและพัฒนาชุมชนบ้านเกิด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล  หรือ Standalone ดังนั้นนอกจากการสอน ยังเน้นการแก้ปัญหาชุมชนด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น หากเป็นพื้นที่การเกษตร  ก็จะต้องรู้จักวิธีทำการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะต้องออกแบบการสอนให้สอดรับกับความต้องการ เมื่อต้องไปเป็นครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล เพราะหากต้องยุบโรงเรียนเหล่านี้ไปเด็กๆ อีกหลายคนในชุมชนก็อาจจะเสียโอกาสการเข้าถึงการศึกษา


“ กสศ. คาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การผลิตครู ที่มหาวิทยาลัยจะไม่สอนตามหลักสูตรในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป จะทำให้มหาวิทยาลัยได้ทบทวนและศึกษากระบวนการผลิตครูของตัวเองไปด้วยว่า การสร้างบัณฑิคุณภาพที่สอดรับกับความต้องการของโรงเรียนนั้นควรเป็นอย่างไร” ดร.อุดม กล่าว

อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือกระบวนการค้นหาเด็กมาเรียน มหาวิทยาลัยจะทำงานเชิงรุกลงไปค้นหาเด็กถึงบ้าน ทำให้อาจารย์รู้จักเด็กๆ ตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียน ข้อมูลจะถูกนำไปเป็นองค์ประกอบปรับกระบวนการเรียนการสอน และหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัย  อีกด้านหนึ่งก็จะทำให้ไม่เกิดการผลิตครูที่ล้นเกินความต้องการ เพราะหากผลิตครูตามอัตราที่ต้องการคือนำอุปสงค์มาเป็นตัวตั้งว่ามีอัตราบรรจุ 301 อัตรา ก็ผลิตครูตามอัตรานี้ จะทำให้ไม่เกิดบัณฑิตครูล้นตลาด 

สำหรับความคืบหน้าสำหรับโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นรุ่นหนึ่งนั้นได้ผ่านการประกาศรายชื่อนักเรียนที่เข้าโครงการเรียบร้อยแล้วโดยมี 11 สถาบันการศึกษาที่รับนักศึกษาเข้าเรียนในสาขาปฐมวัยและประถมศึกษา 328 คน โดยช่วงนี้จะต้องดูแลนักศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีการปรับวิธีการทำงานให้ได้ในช่วงนี้ และจากการสำรวจข้อมูลของนักศึกษาครูรุ่นแรก 328 คน ว่าถ้าหากมหาวิทยาลัยมีนโยบายให้เรียนออนไลน์จะมีความพร้อมแค่ไหน พบว่าในด้านสัญญาณอินเตอร์เน็ต 80% มีความพร้อม ส่วนเรื่องเครื่องมือนั้นมีความพร้อมเพียง 50 % โดยทางบอร์ด กสศ. ได้เห็นชอบในหลักการสนับสนุนเครื่องมือเรียนรู้ที่จำเป็นแก่นักศึกษาทุน อีกด้านหนึ่งยังสนับสนุนงบประมาณให้แต่ละมหาวิทยาลัยออกแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมทักษะต่างๆ ได้ด้วย เช่น บางแห่งจัดเป็นกลุ่มๆ โดยใช้โรงเรียนในพื้นที่เป็นจุดเรียนรู้พร้อมไปกับการศึกษาบริบทชุมชนของตนเองไปด้วย ส่วนโครงการรุ่นที่สองมหาวิทยาลัยใดที่ศึกษาประกาศแล้วสนใจโครงการ สามารถเสนอผ่านระบบออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. นี้เป็นต้นไป

โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 นี้ จะขยายขอบเขตการเปิดรับสมัครสถาบันอุดมศึกษาที่สนใจเข้าร่วมเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูให้กว้างขึ้น เพื่อประโยชน์กับผู้เรียนที่ไม่ต้องเดินทางไกลจากภูมิลำเนาของตนเองมากนัก โดยพิจารณาคัดเลือกสถาบันที่อยู่ในภูมิภาคที่มีอัตราบรรจุแต่งตั้งครู ปี 2568 สำหรับโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ที่ สพฐ.จัดสรรให้กับโครงการ ดังนั้น ในปีนี้จึงจะมีสถาบันที่สามารถสมัครเข้าร่วมการคัดเลือกเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูในโครงการได้มากขึ้น ทั้งนี้ กสศ. มีกระบวนการคัดเลือกสถาบันที่จะเข้าร่วมโครงการอย่างเข้มข้นตามเกณฑ์คุณภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมลงพื้นที่  รวมถึงแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้บริหารของสถาบัน เพื่อประเมินความพร้อมทั้งกายภาพ และฐานคิดที่สอดคล้องกับเป้าหมาย  เพื่อค้นหา และคัดเลือก ให้ได้ผู้มีจิตใจรักอยากเป็นครู มีจิตสาธารณะที่พร้อมจะกลับไปพัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืน และได้ครูที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน สอดคล้องกับภารกิจหลักของ กสศ. คือ การสร้างโอกาสให้กับเด็กๆ ที่มีความขาดแคลนโอกาสและทุนทรัพย์ สำหรับสถาบันที่สนใจเข้าร่วมสามารถลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://forms.gle/WWrk6W7uJr5qi7sn9 หรือ Scan QR Code ( 1 มหาวิทยาลัยลงทะเบียนได้สถาบันละ 2 ท่าน) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย