พปชร.ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาข่มขืน

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-ส.ส.พัชรินทร์-กานต์กนิษฐ์ พลังประชารัฐ แท็กทีมผู้เชี่ยวชาญสายอาชญาวิทยา ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการถูกล่วงละเมิด ผ่าน กมธ.แก้ไขปัญหาข่มขืนฯ จี้ ต้องใช้ยาแรงแก้ปัญหา


นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงเหตุการณ์ 5 ครูและ 2 ศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหารข่มขืนเด็กนักเรียนวัย 14 ปีว่า กรรมาธิการฯ พร้อมผลักดันแนวทางต่างๆ โดยขับเคลื่อนผ่านกรรมาธิการฯ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ส่วนตัวเป็นผู้เสนอญัตติในการตั้งกรรมาธิการพิจารณาเรื่องปัญหาข่มขืนเห็นว่า ที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนขวัญเหล่านี้มาอยู่ตลอดและหลากหลายรูปแบบ ขออย่ารอให้มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับผู้ถูกกระทำที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ และก่อให้เกิดเป็นตราบาปอย่างถาวรแก่เหยื่อผู้ถูกกระทำ ตนเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ และพร้อมผลักดันอย่างเต็มที่ในการหาแนวทางให้สังคมมีความปลอดภัย ผู้ถูกกระทำสามารถที่จะเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเป็นธรรม มีระบบรองรับที่ดี รวมถึงการเยียวยาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ มีกระบวนการบำบัดฟื้นฟู แก้ไขติดตามนักโทษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก หรือสร้างความหวาดผวาให้กับสังคมเรา โดยที่ผ่านมามีความพยายามที่จะศึกษาระบบแนวทางของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบของการดูแลผู้ถูกกระทำ และการบำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขัง รวมถึงติดตามผู้กระทำผิดเมื่อพ้นโทษ แต่ทั้งนี้ก็ต้องศึกษาถึงความเหมาะสมของบริบทสังคมไทยด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องศึกษาให้รอบด้าน

“สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากคือ การศึกษาของกรรมาธิการนี้ต้องสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นตัวกฎหมายควรมีความสอดคล้องเมื่อนำไปปฏิบัติแนวทางต่าง ๆ มีความเหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยด้วย หวังว่ากรรมาธิการจะเป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อน เพื่อที่จะสามารถช่วยลดปัญหาอาชญากรรมประเภทนี้” นางสาวพัชรินทร์ กล่าว


นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการหาแนวทางให้ประชาชนรู้จักวิธีป้องกันตัวเอง และหากเกิดเหตุการณ์ถูกล่วงละเมิด ไม่ว่าจะหนักหรือเบา ต้องกล้าที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ไปกระทำผิดซ้ำอีก ดังนั้นต้องศึกษาพิจารณาในด้านของกระบวนการยุติธรรมด้วยว่ามีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ ที่จะรองรับเหยื่อและพยาน เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยเช่นกัน

ด้าน รศ.ดร.สุณีย์ กัลยะจิตร นักวิชาการด้านอาชญาวิทยา หนึ่งในกรรมาธิการฯ กล่าวสนับสนุนให้นำรูปแบบการติดตามตัวของผู้กระทำผิดของต่างประเทศมาปรับใช้กับนักโทษคดีข่มขืน อีกทั้งเห็นควรว่า ต้องใช้ยาแรงในการจัดการกับผู้กระทำผิดในเคสเช่นนี้ ซึ่งผู้กระทำผิดคดีทางเพศนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น สังคมไทยต้องแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง เร่งด่วน การใช้ยาแรงในการแก้ไขที่จะปรับเปลี่ยนได้จริงจัง ยิ่งผู้กระทำผิดคือพ่อพิมพ์ของชาติ ยิ่งต้องได้รับผลที่รวดเร็ว รุนแรง และแน่นอน สำหรับนักโทษคดีข่มขืนของแต่ละประเทศมีแนวทางการป้องกันและแก้ไขที่แตกต่างกัน หลายๆ ประเทศที่มีสถิติการข่มขืนสูงต้องกลับมาพิจารณาแนวทางลงโทษว่า เป็นการลงโทษแบบบำบัดแก้ไขหรือลงโทษแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เน้นวิธีการที่มีกฎหมายรองรับที่ชัดเจนเพื่อป้องกันกันการก่อเหตุซ้ำ ทำให้แนวทางการจัดการคดีล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนทั่วโลก มีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ถึงเวลาของประเทศไทยหรือไม่ที่จะต้องการเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถนำมาแก้ไขปรับปรุงผู้กระทำผิดคดีทางเพศกับประเทศไทยได้ การใช้ยาแรงในการแก้ไข เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่ฉีดยาทำให้อวัยวะเพศฝ่อ ไม่ตื่นตัว หรือการใช้กฎหมายที่ลงโทษสูงสุดไม่มีการลดโทษใดๆ ประหารชีวิตเท่านั้น เช่นเดียวกับ ประเทศอินเดีย ประเทศอัฟกานิสถาน ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศเกาหลีเหนือ ประเทศจีน และการป้องกันการกระทำผิดคดีทางเพศซ้ำโดยใช้ระบบการลงทะเบียนผู้กระทำผิดคดีทางเพศมาใช้ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ต้องย้อนกลับมาพิจารณาสังคมไทยว่าเราจะพิทักษ์รักษาสิทธิของใครเป็นสำคัญ

ส่วน พ.ต.ท.ผศ.ดร.ศิพร โกวิท อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และกรรมาธิการฯ ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า กฎหมายกำหนดโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และยังระวางโทษหนักขึ้นได้อีก หากกรณีเป็นการกระทำแก่บุคคลซึ่งอยู่ในความดูแล เช่น บุตร ลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล กฎหมายไม่ได้อ่อนไป โทษตามกฎหมายนั้นเป็นโทษขั้นสูงที่สุดแล้ว แต่คดีความผิดเกี่ยวกับเพศ การข่มขืนกระทำชำเรา พ่อข่มขืนลูก ครูข่มขืนลูกศิษย์ ยังคงเกิดขึ้นอยู่ไม่ลดน้อยหายไปจากสังคมไทย จึงเป็นข้อสังเกตว่า ไม่ใช่เพราะกฎหมายอ่อนไป หรือโทษไม่น่าเกรงกลัว แต่เป็นเพราะผู้กระทำความผิดขาดความยับยั้งเกรงกลัว แม้รู้ว่าสิ่งที่กระทำเป็นความผิด แต่ขณะลงมือกระทำความผิดผู้กระทำเองก็ไม่คิดว่าจะถูกจับกุมดำเนินคดี การแก้ไขกฎหมายเพียงอย่างเดียวจึงไม่ใช่ทางแก้ปัญหา หากแต่ต้องเป็นการแก้ไขทั้งกระบวนการ ตั้งแต่กฎหมาย การดำเนินคดี การลงโทษที่เหมาะสม การเยียวยาฟื้นฟู ตลอดไปจนถึงการป้องกันสังคม ป้องกันมิให้เกิดช่องโอกาสในการกระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]