fbpx

กองทัพไทยพร้อมเคียงข้างประชาชนสู้ภัยโควิด-19

กรุงเทพ 10พ.ค.- ผบ.สส ในฐานะหัวหน้าศปม. ห่วงใยประชาชน สั่งกองทัพไทยสนับสนุนงานรัฐบาลและช่วยประชาชนทุกด้านอย่างเต็มที่


พลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ได้เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และสังคมไทยโดยรวม ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลและทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลังจนทำให้สถานการณ์การแพร่กระจายโรคเริ่มลดลงและคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีตามลำดับ  จนในปัจจุบันนำไปสู่การกำหนดมาตรการผ่อนคลายเพื่อลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ของประชาชน รวมทั้งเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามสมควร โดยมีผลตั้งแต่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นมานั้น 


โดยพลเอก พรพิพัฒน์  เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) มีความห่วงใยและตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในทุกด้าน จึงสั่งการให้กองบัญชาการกองทัพไทย ให้การสนับสนุนรัฐบาลและดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถในด้านต่าง ๆ ได้แก่  


ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ให้การสนับสนุนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการคัดกรองคนไทยผู้เดินทางกลับเข้าประเทศตามระบบตรวจคนเข้าเมืองและการคัดกรองโรคของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นต้นมา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง มีภารกิจสนับสนุนการปฏิบัติงานของกระทรวงกลาโหม รวมทั้งการประสานงาน ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับคนไทยผู้เดินทางกลับครอบครัวและประชาชน  ตลอดจนการจัดยานพาหนะไปส่งยังพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ โดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้จัดชุดแพทย์และชุดรักษาความปลอดภัยดำเนินการรับผิดชอบ ณ โรงแรมบางกอก พาเลส กรุงเทพ

การจัดตั้งคณะตรวจการประกอบกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายของ ศปม. จำนวน 2 ลักษณะ ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ได้แก่ ชุดตรวจร่วมตามมาตรการผ่อนคลายประจำพื้นที่ มีศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปม.ตร.) ดำเนินการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เหล่าทัพ (ศปม.ทบ., ศปม.ทร., ศปม.ทอ.) หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  เพื่อตรวจสถานประกอบกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย ให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ซึ่งชุดตรวจร่วมได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติที่ถูกต้อง และจะเข้าทำการตรวจซ้ำอีกเพื่อยืนยันการแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรการผ่อนคลายที่กำหนด รวมทั้งได้รณรงค์สร้างการตระหนักรู้เพื่อความร่วมมือกันทำให้สังคมไทยปลอดภัยจากโรค และชุดตรวจตามมาตรการผ่อนคลายส่วนกลาง มี หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย ออกรณรงค์สร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ โดยพบว่าสถานประกอบกิจการส่วนใหญ่ต่างให้ความร่วมมือและมีความเข้าใจในมาตรการผ่อนคลายที่กำหนดเป็นอย่างดี  

นอกจากนี้ ยังได้จัดรถครัวสนามเคลื่อนที่ จากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาออกประกอบอาหารสำเร็จรูปเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน จัดขบวนรถจักรยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว นำอาหารแห้ง หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและผู้ป่วยติดเตียงอีกด้วย 

สำหรับในด้านการแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำนั้น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้เข้าช่วยเหลือเกษตรกร โดยการช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิต การขนส่ง การจัดเตรียมพื้นที่จำหน่าย และการนำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับประชาชนบริเวณโดยรอบที่ตั้งหน่วย

ทั้งยังสนับสนุนโครงการฟาร์มตัวอย่าง จำนวน 18 ฟาร์ม โดยให้การสนับสนุน ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ตามนโยบายเรื่องการสร้างอาชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 อาทิ การขุดสระเก็บน้ำ การดำเนินงานขุดคลองไส้ไก่ การขุดลอกแหล่งน้ำ  การปรับพื้นที่และจัดหาน้ำกินน้ำใช้ให้แก่ประชาชน โดยเริ่มดำเนินการแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 8 ฟาร์ม

สำหรับบทบาทด้านการบรรเทาสาธารณภัยนั้น กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ปฏิบัติควบคู่กับงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด เพื่อสร้างพื้นฐานสำคัญในภาคการผลิต  ซึ่งถือเป็นแหล่งอาหาร การสร้างรายได้ และความมั่นคงในชีวิตของประชาชนชาวไทย ประกอบด้วย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยสำนักงานพัฒนาภาค 1-5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ออกดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 168 บ่อ การแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 33,834,400 ลิตร การพัฒนาแหล่งน้ำ เช่น การสร้างอ่างเก็บน้ำ ฝายทดน้ำ ขุดลอกคลอง หนอง บึง และสระเก็บน้ำในไร่นา จำนวน 64 แห่ง รวมผู้ได้รับผลประโยชน์  125,891 ครัวเรือน จำนวนทั้งสิ้น 348,417 คน พร้อมทั้งจัดทำแผนรองรับภัยพิบัติในรูปแบบต่าง ๆ  เช่น วาตภัย และ อุทกภัย โดยการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าทำการช่วยเหลือ อาทิ การเปิดเส้นทางการจราจร การตัดกิ่งไม้ที่ล้มทับอาคารบ้านเรือน การซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง และบ้านพักอาศัยของประชาชนต่อไป

โดย พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) ยังได้ให้ความสำคัญแก่การตรวจเยี่ยมหน่วยเพื่อมอบขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการกองทัพไทย หมั่นตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของหน่วยต่าง ๆ  อย่างสม่ำเสมอเพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องและนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

ทั้งนี้กองบัญชาการกองทัพไทย มีความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในทุกรูปแบบ  และจะใช้ทุกศักยภาพที่มีเพื่อเคียงข้างร่วมสร้างภูมิคุ้มกันด้านความมั่นคงให้กับพี่น้องประชาชนในยามที่ต้องเผชิญกับวิกฤต โควิด-19 หรือภัยพิบัติในรูปแบบต่าง ๆ  เนื่องด้วยภารกิจด้านการบรรเทาสาธารณภัย การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในทุกภูมิภาคนั้น เป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งของกองบัญชาการกองทัพไทย ในการสร้างรอยยิ้มและความสุขที่ยั่งยืนให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​