พิษรักแรงหึง ทุบหัวเมียดับยัดท่อส้วมโบกปูน

นครพนม 7 พ.ค.- เหตุเกิดเพราะพิษรักแรงหึง หนุ่มใหญ่ช่างปูนทุบหัวเมียดับยัดท่อส้วมโบกปูน ลูกสาวตามหาแม่หาย ต้องผงะพบศพยัดท่อ พ่อสารภาพสุดทนแม่มีชายอื่น ลูกโผกอดพ่อร้องไห้ ไม่ได้โกรธ แต่พ่อไม่น่าทำแบบนี้



เหตุสลดในครอบครัวนี้เกิดในพื้นที่ สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ตำรวจจับกุมนายพิส อายุ 53 ปี อาชีพช่างปูน ผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุหึงโหด ฆ่าทุบศีรษะภรรยา  และนำไปทิ้งลงในท่อส้วมหลังบ้านและโบกปูนปิดอำพรางศพ ส่วนผู้ตายเป็นภรรยา คือ นางบุญเลิศ อายุ 49 ปี เหตุเกิดเช้าวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 บริเวณหลังบ้านไม่มีเลขที่ ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หลังเกิดเหตุ ลูกสาวคนโต พร้อมญาติ ตามหาผู้เสียชีวิตข้ามคืน แต่ไม่พบ จนกระทั่งพบว่าเสียชีวิต ศพถูกทิ้งลงในท่อส้วมหลังบ้าน พร้อมโบกปูนปิด ในช่วงเช้าวันนี้


ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ นำศพไปชันสูตร และติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้ ขณะออกไปทำงานรับจ้างก่อสร้างในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังอำพรางศพ ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า กระทำไปเพราะคับแค้นใจภรรยาไปมีชู้มานานหลายปี จับได้หลายครั้ง ไม่ยอมเลิก จนกระทั่งฝ่ายภรรยาท้าทายว่าไม่กล้าทำร้าย สุดท้ายจึงลงมือด้วยการเอาอิฐบล็อกทุบศีรษะ เสียชีวิต และนำศพทิ้งลงท่อส้วมโบกปูน เพื่อวางแผนจะไปฆ่าอีกคนที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยา แต่ลูกสาวมาเจอศพเสียก่อน

หลังการจับกุมตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยได้ไปชี้จุดบริเวณข้างโอ่งอาบน้ำ ขณะผู้ตายนุ่งผ้าถุงกระโจมอกอาบน้ำ จึงใช้อิฐบล็อกทุบตีศีรษะไป 3 -4 ครั้ง จนหมดสติและเสียชีวิต ก่อนที่จะนำศพมานอนบนแคร่หลังบ้าน ในสภาพเลือดไหลออกทางศีรษะจำนวนมาก จึงใช้ผ้าซับไว้ และตัดสินใจอุ้มศพภรรยา ทิ้งลงในท่อส้วมคอนกรีตลึกประมาณ 1.5 เมตร กว้างประมาณ 1 เมตร และปิดฝาโบกด้วยปูน เพื่ออำพรางศพ จากนั้นนำน้ำมาทำความสะอาดล้างเลือดเช็ดด้วยผ้า และนำ เศษผ้า รวมถึงผ้าถุงเปื้อนเลือดผู้ตายไปเผาทำลาย บริเวณตอไม้หลังบ้าน ห่างกันประมาณ 30 เมตร ส่วนอิฐบล็อกที่ใช้ก่อเหตุยังมีสภาพเปื้อนเลือด


ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ เก็บหลักฐาน ไว้ประกอบการดำเนินคดีทั้งหมด สรุปยืนยันคดีดังกล่าวสามีเป็นคนลงมือฆ่าเพียงคนเดียว จากความคับแค้นใจที่ภรรยาไปมีชู้กับชายอื่น และเป็นปัญหาในครอบครัว ไม่มีปมฆาตกรรมเรื่องอื่น และมีการสอบสวนพยานหลักฐานชัดเจน  และเจ้าตัวสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งตำรวจจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ลูกสาวคนโตของผู้ตาย อายุ 29 ปี เดินทางมาขอพูดคุยกับพ่อ พร้อมนำน้ำ ขนม มาให้พ่อรับประทาน ก่อนโผเข้ากอดร้องไห้ด้วยความสงสารพ่อ เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้โกรธพ่อ แต่พ่อไม่น่าจะทำแบบนี้ เพราะสุดท้ายไม่คุ้มกับสิ่งที่ทำลงไป ต้องมีลูกมีหลานที่ต้องดูแลอีก ซึ่งยังให้ข้อมูลกับทางตำรวจว่ายอมรับว่า พ่อกับแม่ทะเลาะกันมานาน และรับรู้ว่าแม่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาว แต่ถือว่าเป็นเรื่องของพ่อแม่ เคยพยายามห้ามให้แม่ปรับตัว และขอให้พ่อให้อภัยมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยเลิกรากัน สุดท้ายไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับครอบครัว

ส่วนผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับภรรยามานานเกือบ 30 ปี รับจ้างเป็นช่างปูน ทำงานรับเหมาก่อสร้างทั่วไป มีลูกทั้งหมด 3 คน เป็นหญิงคนโต 1 คน และชายอีก 2 คน โดยที่ผ่านมาอดทนทำงานสร้างครอบครัวมาตลอด ไม่คิดว่าภรรยาจะปันใจให้ชายอื่น มีปัญหาทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน ภรรยาบอกเลิก แต่ตนไม่เลิก ในที่สุดก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ตนพูดจาลวงให้ภรรยามานอนที่บ้านหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง จุดเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ