กรุงเทพฯ 6 ก.พ.- รองผู้จัดการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ผู้บาดเจ็บตกลงจากรถกู้ภัย ยอมรับเจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อ พร้อมรับผิดชอบ
นายอรัณย์ โตทวด รองผู้จัดการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและรักษาการผู้จัดการ ฝ่ายปฏิบัติการ ชี้แจงถึงเหตุการณ์ผู้ป่วยไถลออกจากรถตู้กู้ภัย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ (5 พ.ค.) ว่า ในนามตัวแทนมูลนิธิ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยอมรับผิดเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เป็นความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่
ส่วนเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์คือ นายทรงพล เนียมนิด อาสากู้ชีพทุ่งครุ ซึ่งผ่านการอบรมในการปฏิบัติหน้าที่ระดับ B จาก รพ.บางปะกอก และใช้รถยนต์ ทุนทรัพย์ของตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้เรียกเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์พร้อมให้ทำรายงานเหตุการณ์แล้ว จากนี้จะตรวจสอบตามระเบียบแล้ว โดยจะมีการพิจารณาโทษตามระดับความผิด ซึ่งอาจตักเตือนและให้พักงานก่อน 3-6 เดือน
ขณะเดียวกันได้ส่งตัวแทนเข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลแล้ว ยืนยันไม่ได้รับการกระทบเทือนสมอง ส่วนบาดแผลตามร่างกายเกิดจากอุบัติเหตุรถล้ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ารับตัวนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความ
นายธีรวุฒิ คำภิมาบุตร หัวหน้าแผนกอาสาสมัครมูลนิธิ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยผลการตรวจสอบเหตุการณ์ เบื้องต้น ว่า หลังจากเลื่อนเปลผู้ป่วยเข้าฐานล็อกบนรถตู้ ได้ยินเสียงกึ๊กตามปกติ ของการล็อกเตียง ทำให้เข้าใจว่าไม่มีความผิดพลาด แต่เมื่อออกรถทำให้เกิดแรงกระชาก ส่งผลให้เตียงไหลกระแทกประตู จนประตูท้ายเปิดและผู้ป่วยไถลหล่นจากรถ ตามคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ พร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตัวแทนมูลนิธิฯ ระบุเพิ่มเติม ปกติการออกรับผู้ป่วย จะมีเจ้าหน้าที่ประจำรถ 3 คนแต่วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประจำจุดไปดูแลผู้บาดเจ็บอีกเหตุ ทำให้ต้องเรียกอาสาจุดใกล้เคียงไปดูแลเหตุซ้อนดังกล่าว ซึ่งในรถมีอาสา 2 คน แต่หนึ่งในนั้นเป็นอาสาสำรอง ซึ่งไม่พร้อมปฏิบัติหน้าที่อยู่ระหว่างซ่อมรถ ตัวเปื้อนน้ำมัน จึงทำให้เหลือคนขับเพียงคนเดียวที่ดูแลคนป่วย และทำหน้าที่ขับรถ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลข้างหลัง พร้อมย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้ผ่านการฝึกอบรมกู้ชีพ ของกระทรวงสาธารณสุข และอุปกรณ์มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องได้มาตรฐาน
ขณะที่นายทรงพล เนียมนิด อาสากู้ชีพทุ่งครุ ซึ่งเป็นอาสาที่ปรากฎในคลิป เปิดเผยว่า อยากขอโทษทุกๆ คนทั้งคนเจ็บ ญาติคนเจ็บ และสังคม อาจเพราะเราไม่ตรวจสอบให้ดีพอ และรู้สึกเสียใจ ก็มีท้อบ้างแต่ต้องช่วยเหลือคนต่อไป ปกติการทำงานจะมีน้องๆ มาช่วยกันอยู่แล้ว แต่วันนั้นมีเหตุซ้อนกันหลายงาน กำลังพลไม่พอ จึงให้น้องที่มาช่วยกันอีกทางหนึ่ง ที่เขาขี่รถจยย.มา ให้เขาช่วย พอรู้แล้วผมก็ขอโทษพี่เขาตลอด ตั้งแต่เอาเขาขึ้นรถรอบแรกก็ขอโทษพี่เขา อยากขอโทษเพราะเราก็ไม่ได้ตั้งใจไม่อยากให้มันเกิด
พร้อมขอความเห็นใจบ้าง เพราะอยากมีกำลังใจในการทำงานต่อไป หากย้อนกลับไปได้ก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ต่อไปจากนี้จะมีมาตรการก่อนจะขึ้นรถต้องตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยทั้งประตูและเตียง ต้องตรวจเช็คให้เรียบร้อยทุกครั้งในการช่วยเหลือ ครั้งนี้ผมยอมรับในสิ่งที่ผมได้ทำผิดพลาดไป หลังจากนี้ก็ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของมูลนิธิที่จะเห็นสมควรว่าจะทำอย่างไรต่อ พร้อมยอมรับทุกอย่าง เพราะเป็นความผิดของผม.-สำนักข่าวไทย