วอชิงตัน 21 ม.ค.- กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 ได้จัดการชุมนุมประท้วงขึ้นในหลายสถานที่ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐ ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัดในระหว่างที่กำลังมีพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ เพื่อประท้วงต่อต้านนโยบายหลายอย่างของเขา ตั้งแต่ปัญหาสิ่งแวดล้อม สิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศ นโยบายการเข้าเมือง ความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ ไปจนถึงสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ผู้ชุมนุมหลายคนชี้ว่า พิธีสาบานตนมีขึ้นตรงกับวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ซึ่งเป็นผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองคนสำคัญของประเทศ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทำเนียบเปิดเผยว่า นายทรัมป์จะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารที่จำกัดความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม โดยรัฐบาลกลางจะให้การรับรองเพียง 2 เพศเท่านั้นคือชายและหญิง และที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม มีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 150 คนรวมตัวประท้วงที่หน้าสถานทูตสหรัฐ ผู้ชุมนุมพากันตะโกนและชูป้ายต่อต้านทรัมป์ นักศึกษาด้านสื่อมวลชนคนหนึ่งกล่าวว่า มีความกังวลหลายเรื่องเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลัวว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะใหญ่มากยิ่งขึ้นไปอีกในสหรัฐและในยุโรป นายทรัมป์เผยว่า เขาจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานระดับประเทศโดยทันที โดยรับปากจะเติมเต็มน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ และจะส่งออกพลังงานไปทั่วโลกด้วย ขณะที่เอกสารของทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากข้อตกลงสภาพอากาศปารีสด้วย ส่วนที่เม็กซิโกมีการชุมนุมที่หน้าสถานทูตสหรัฐในกรุงเม็กซิโกซิตี เพื่อประท้วงนโยบายปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ที่ประกาศว่าจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติที่ชายแดนทางใต้ซึ่งติดกับเม็กซิโก จะส่งทหารไปประจำการชายแดน และจะรื้อฟื้นข้อบังคับให้ผู้ขอลี้ภัยต้องรออยู่ในฝั่งเม็กซิโกในระหว่างรอกระบวนการทางศาลในสหรัฐ.-816(814).-สำนักข่าวไทย