ล่าระทึก! ชายวัย 44 กราดยิงครอบครัวภรรยาเก่า เจ็บ 1

ฉะเชิงเทรา 4 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจฉะเชิงเทราขับรถไล่ล่าชายวัย 44 ปี เมาก่อเหตุกราดยิงครอบครัวภรรยาเก่า บาดเจ็บ 1 คน ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา


เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเหตุยิงกัน ในหมู่บ้านมั่นคงผีขุดพัฒนา ต.บางปะกง อ.บางปะกง ภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ คือ นางประโลม บุญทวี อายุ 51 ปี ถูกยิงที่คอและด้านหลัง จำนวน 2 นัด เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาล ใกล้กันพบปลอกกระสุน ขนาด.22 ตกอยู่ 3 ปลอก หัวกระสุนขนาด .22 จำนวน 1 หัว และที่กระจกบ้านถูกยิงเสียหาย



ขณะที่ตำรวจอีกกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธ ได้เข้าปิดล้อมหมู่บ้านค้นหาตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธนโชติ บำรุงญาติ อายุ 44 ปี ใช้เวลานานเกือบ 40 นาที แต่ก็ไม่พบ จากการสอบสวนทราบว่า หลังก่อเหตุ นายธนโชติได้ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน งน 5812 ชลบุรี หลบหนีไป พร้อมกับอาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดลำกล้อง 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก  

ล่าสุดนางประโลม ให้การว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตน้องเขย ซึ่งพยายามมาตามขอคืนดีกับน้องสาว คือ นางธัญพร บ้านสร้าง อายุ 43 ปี แต่มาด้วยอาการเมาอย่างหนัก และทะเลาะกันรุนแรง ใช้ของแข็งปาใส่หน้าบ้าน จึงแจ้งให้ตำรวจเข้ามาช่วยระงับเหตุ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (3 พ.ค.) เมื่อตำรวจมาถึง นายธนโชติก็หลบหนีไป แต่ระหว่างที่ครอบครัวกำลังจะไปแจ้งความที่ สภ.บางปะกง นายธนโชติได้กลับมาที่บ้านอีกครั้ง คราวนี้ตะโกนว่าจะฆ่าให้หมดทั้งครอบครัว ก่อนจะใช้อาวุธปืนกราดยิง จำนวน 11 นัด และปืนลูกซองอีก 1 นัด ทำให้ต้องวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง ตนกลัวว่าหลานจะถูกยิง จึงก้มไปบังกระสุน จนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้น นายธนโชติได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าจะฆ่าทิ้งให้ได้ และไม่ยอมถูกจับคืนนี้ แต่จะไปมอบตัวเองตอนเช้า 


จากนั้นตำรวจได้รับแจ้งว่า นายธนโชติขับรถเข้าไปในโรงพยาบาลบางปะกง แล้วเดินขึ้นไปบนตึก เพื่อจะตามไปยิงผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยาเก่าซ้ำ ทางโรงพยาบาลได้แจ้งชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบ เพราะนายธนโชติได้ขับรถหลบหนีออกนอกโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว ทำให้ทางกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกงไม่กล้าย้ายผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลพุทธโสธร เพราะกลัวว่าระหว่างทาง นายธนโชติจะขับรถไล่ยิงรถโรงพยาบาล ตำรวจจึงประสานสายตรวจรถยนต์ขับรถติดตามรถพยาบาลไป เพื่อความปลอดภัย

กระทั่งเวลา 23.45 น. คนในหมู่บ้านโทรมาแจ้งตำรวจว่า นายธนโชติขับรถกลับไปยังบ้านที่เกิดเหตุ แล้วเข้าไปพังข้าวของภายในบ้าน รถกระบะ และรถของเพื่อนบ้าน เสียหายอย่างหนัก จนทำให้ชาวบ้านต้องขับรถพาครอบครัวนางธัญพร ซึ่งเป็นภรรยาเก่า พร้อมลูกและคนในครอบครัว รวม 5 ชีวิต หนีตายไปหลบอยู่ในอาคาร อบต.หลังเก่า ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร เพราะกลัวว่า นายธนโชติจะมายิงซ้ำ ซึ่งตำรวจได้เร่งติดตามไปที่อาคาร อบต.หลังเก่า และเข้าช่วยเหลือครอบครัวทั้ง 5 ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ก่อนรีบนำทุกคนไปหลบที่ สภ.บางปะกง 

ระหว่างนั้น ช่วงประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตำรวจสายตรวจพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน งน 5812 ชลบุรี คันที่นายธนโชติใช้ในการหลบหนี จอดนิ่งอยู่ภายในซอยคลองตัณฑิกุล หมู่ 12 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จึงรีบนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจสอบ พบว่า รถคันดังกล่าวไม่มีการเปิดไฟ อีกทั้งคนร้ายมีปืน ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวัง ระหว่างที่ตำรวจจะเข้าประชิดรถ จู่ๆ คนในรถก็เปิดไฟหน้ารถ ก่อนจะเร่งเครื่องขับรถหลบหนีไปทางถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.44 ขาเข้า กทม. ช่องคู่ขนาน อย่างรวดเร็ว ตำรวจต้องขับรถไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด กระทั่งคนร้ายขับรถขึ้นสะพานกลับรถแล้ววิ่งเข้าชลบุรีด้วยความเร็ว ซึ่งตำรวจก็ไล่ติดตาม แต่สุดท้ายไปคลาดกันในเขตพื้นที่ อ.เมืองชลบุรี ระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร 

ระหว่างที่ตำรวจ สภ.บางปะกง กำลังวางแผนและดักคนร้าย จึงค่อยขับรถกลับรถบนสะพานกลับรถ กม.57-58 เพื่อจะกลับโรงพัก ซึ่งบริเวณช่องทางด่วน ขาเข้า กทม. มีตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี พร้อมทหาร และฝ่ายปกครอง ตั้งด่านตรวจเคอร์ฟิวอยู่ ระหว่างนั้น นายธนโชติได้ขับรถมาจากด้านหลังอย่างเร็ว ก่อนจะขึ้นสะพานกลับรถ และเกือบชนรถจักรยานยนต์สายตรวจของ สภ.บางปะกง ก่อนที่นายธนโชติจะลังเล เพราะเจอด่านฯ จึงพยายามหักพวงมาลัยจะเข้าช่องคู่ขนาน แต่เพราะความเร็วของรถ ทำให้รถเสียหลักชนขอบทางแบริเออร์และลอยขึ้นฟ้า ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้น ตำรวจ สภ.บางปะกง สภ.เมืองชลบุรี ตำรวจทางหลวงชลบุรี และทหาร กว่า 50 นาย ได้ปิดล้อมรถคันดังกล่าว เพราะไม่รู้ว่า นายธนโชติจะยิงต่อสู้หรือไม่

จนเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที จึงเข้าปิดล้อมรถคันดังกล่าวแล้วส่องไฟดู พบว่า นายธนโชตินอนสลบอยู่ในรถ จึงรีบเข้าช่วยเหลือนายธนโชติออกมาจากรถและจับกุมตัว ภายในรถพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน และอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนนายธนโชติ ยังอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ตำรวจจึงนำตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.บางปะกง 

ด้านนางธัญพร อดีตภรรยา ให้การว่า ตนอยู่กับนายธนโชติ มากว่า 27 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมาได้เลิกรากัน แต่นายธนโชติยังมาตามง้อขอคืนดีตลอด และทุกครั้งจะขู่ฆ่ายกครอบครัว ซึ่งครั้งนี้น่าจะเพราะความเมา ทำให้กล้าลงมือก่อเหตุกราดยิงคนในครอบครัว จนเกือบจะตายกันทั้งหมด โชคดีที่วิ่งหนีทัน เบื้องต้นตำรวจตั้ง 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]