อสส.เผยสถิติจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในรอบเดือน เม.ย.21,426 คนชี้ชัดแนวโน้มลดลง

กรุงเทพฯ 1 พ.ค.- สำนักงานอัยการสูงสุด สรุปคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก. ในรอบ 1 เดือนที่มีการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฟ้องผู้ฝ่าฝืนทั่วประเทศ รวม 21,426 คน แต่สถิติคดีมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด


นายประยุทธ  เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า จากข้อมูลการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในรอบ 1 เดือนของสำนักงานอัยการต่างๆ ทั่วประเทศ ที่พนักงานอัยการได้ฟ้องคดีต่อศาลในช่วงระหว่างวันที่ 3 – 30 เมษายน 2563 และได้รายงานเข้ามายังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ของสำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) ที่มีนายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุดเป็นประธานศูนย์ฯ โดยนายรัชต์เทพ ดีประหลาด ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุด และนางณฐนน แก้วกระจ่าง ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ร่วมกันทำการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินคดี ปรากฏว่า มีการฟ้องคดีผู้ฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ ในช่วงดังกล่าว ทั้งสิ้น 15,895 คดี ผู้ถูกดำเนินคดีจำนวน 21,426 คน โดยศูนย์ฯ ศบสค.อส. ได้จัดทำรายงานสถิติคดีการฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 3 – 30 เมษายน 2563 ดังกล่าว (ปรากฏตามกราฟที่แสดง)

นายประยุทธ เพชรคุณ ยังเปิดเผยด้วยว่า ถ้าดูย้อนหลังกลับไป 4 วัน คือ ช่วงระหว่างวันที่ 27 – 30 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่พบผู้ติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) รายใหม่ทั่วประเทศ แต่ละวันไม่ถึง 10 คน หากพิจารณาจำนวนผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉินในห้วงเวลาเดียวกันก็จะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน เช่น ในวันที่ 30 เมษายน 2563 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 คน ในขณะเดียวกันผู้ฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ ทั่วประเทศ มีเพียง 656 คน เป็นต้น


จากความสัมพันธ์ของข้อมูลดังกล่าว เห็นได้ว่าถ้ามีการปฏิบัติตามพระราชกำหนดฯ อย่างเคร่งครัด เช่น ให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย ไม่มั่วสุมทั้งในบ่อนการพนัน หรืองานสังสรรค์รื่นเริง จะยิ่งทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นแนวทางในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างไรก็ตาม นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ยังคงให้พนักงานอัยการทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมายและมาตรการต่างๆ ตามหนังสือสั่งการโดยเคร่งครัดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า