กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – กรมชลประทานปรับแผนส่งน้ำจากเขื่อนลำปาวช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ต่างดีใจเพราะน้ำจากแหล่งน้ำที่ใช้ปกติใกล้หมด รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาตลาดรับซื้อกุ้งของเกษตรกร เพื่อป้องกันความเสียหาย หากเลี้ยงแน่นบ่อเกินไปในช่วงอากาศร้อน
นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่สามารถจับกุ้งออกจำหน่ายได้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โดยปรับแผนการส่งน้ำจากเขื่อนลำปาวให้เร็วขึ้น จากเดิมประกาศหยุดส่งน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนจนถึงเดือนกรกฎาคม เพื่อให้ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าว ตลอดจนเป็นห้วงเวลาที่ต้องซ่อมแซม บำรุงรักษา ปรับปรุงคลอง และอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพในช่วงฤดูฝน ล่าสุดประกาศเลื่อนการส่งน้ำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเร็วขึ้นอีก 1 เดือน โดยจะเร่งซ่อมแซมคลองให้เสร็จเร็วกว่าแผน 1 เดือน เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน โดยส่งน้ำนอนคลองผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา กม.0+000 ถึง กม.28+000 สำหรับพื้นที่การเกษตรอื่น ๆ จะเริ่มส่งน้ำในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมตามปกติ
สำหรับความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม 773 ราย พื้นที่กว่า 5,327 ไร่ จึงขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกักเก็บน้ำไว้ในช่วงที่โครงการจะส่งน้ำนอนคลองเช่น เติมน้ำไว้ในบ่อให้มากขึ้น หรือทำบ่อพักน้ำไว้ใช้ยามจำเป็น รวมทั้งเร่งจับกุ้งที่มีอายุครบกำหนดออกมาจำหน่ายเพื่อลดความหนาแน่นของบ่อกุ้ง นอกจากนี้ยังประสานความร่วมมือกับร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ขยายช่องทางการตลาดให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จนไม่สามารถส่งออกได้ อีกทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศลดลง จึงเป็นการช่วยกระจายสินค้าทางการเกษตรตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ทำงานแบบบูรณาการ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่เกษตรกรจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
“ขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งติดตามระดับน้ำและสูบน้ำเข้าเก็บกักไว้สำหรับเปลี่ยนถ่ายน้ำในบ่อกุ้งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศร้อนมาก ไม่ควรเลี้ยงกุ้งแน่นบ่อเกินไป” นายศักดิ์ศิริกล่าว.-สำนักข่าวไทย