โรคใบร่วงยางพาราคลี่คลาย ย้ำเกษตรกรดูแลสวนอย่างใกล้ชิด

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – กยท.  เผยสถานการณ์โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารามีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบพื้นที่ติดโรคเหลือเพียง 20 ไร่เศษ จากมีพื้นที่ติดโรคเกือบ 800,000 ไร่ เป็นผลจากการผลัดใบตามฤดูกาลและสภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำทำให้เชื้อราก่อโรคลดลง ย้ำเกษตรกรชาวสวนยางหมั่นตรวจสอบสวนยางพารา หากพบอาการใบร่วงให้รีบแจ้ง กยท. ในพื้นที่เพื่อเข้าควบคุมโรคโดยทันที


นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย  (กยท.) กล่าวว่า ต้นยางพาราที่ยังคงติดเชื้อโรคใบร่วงชนิดใหม่เหลือเพียง 20 ไร่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเท่านั้น หลังได้รับรายงานการติดเชื้อใน 10 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา สตูล พังงา ตรัง พัทลุง กระบี่  และสุราษฎร์ธานี พื้นที่เกือบ 800,000 ไร่ ทั้งนี้ กยท. พบการระบาดของโรคดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2562 ในจังหวัดนราธิวาส เกิดจากเชื้อราซึ่งแพร่กระจายในอากาศอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาพร้อนชื้น ทั้งนี้กยท. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA ) ร่วมวิจัยหาแนวทางแก้ปัญหา ด้วยการเก็บตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์หาเชื้อ ทดสอบการเกิดโรคเพื่อยืนยันเชื้อสาเหตุโรค ทดสอบประสิทธิภาพสารกำจัดเชื้อรา และทดสอบอุปกรณ์และวิธีการฉีดพ่นที่เหมาะสมสำหรับสวนยาง นอกจากนี้ยังได้นำระบบดาวเทียมเข้ามาช่วยสำรวจพื้นที่ที่เกิดใบร่วง ดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ที่เกิดใบร่วงในแต่ละห้วงเวลา

นายกฤษดา กล่าวว่า กยท. เร่งออกคำแนะนำและเผยแพร่แนวทางการป้องการกำจัดโรค  ตลอดจนสาธิตในแปลง และสนับสนุนปัจจัยในการป้องกันกำจัดโรคในหลายพื้นที่แล้ว แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงผลัดใบตามธรรมชาติของต้นยางพารา ประกอบกับฝนตกน้อยทำให้ความชื้นต่ำ เชื้อราจึงลดลงมาก จากการสำรวจพื้นที่ที่เคยเกิดโรคพบว่า ต้นยางที่ใบที่ร่วงทั้งจากถูกเชื้อราทำลายและผลัดใบตามฤดูกาล เริ่มแตกใบชุดใหม่ขึ้นมาและยังไม่ปรากฏการเข้าทำลายของโรคนี้ 


“เกษตรกรต้องหมั่นตรวจสอบสวนยางพารา ดูแลทำความสะอาดแปลง ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นยางพาราอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำ เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝน อาจทำให้เชื้อราก่อโรคเพิ่มจำนวน แล้วเข้าทำลายใบยางได้อีก หากพบต้นยางใบร่วงและสภาพใบถูกทำลายจนเป็นรู ให้รีบแจ้ง กยท. ในพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบและควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน” นายกฤษดากล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก