ศบค.ยังต้องเข้มเข้า-ออก ป้องนำเชื้อเข้าประเทศ

ทำเนียบรัฐบาล 29 เม.ย.-ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่ 9 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ชี้แม่ที่ป่วยโควิด-19 ให้นมลูกได้ ไม่ติดเชื้อผ่านน้ำนม ชื่นชมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือเพิ่มขึ้น ย้ำยังต้องคุมการเข้า-ออก ป้องกันการนำเชื้อเข้ามา 


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (29 เม.ย.) ว่า ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 9 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,947 ราย รักษาหาย 2,665 ราย รักษาตัวอยู่ 228 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม รวม 54 ราย ทั้งนี้ จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 9 ราย พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 6 ราย(กทม. 3 ภูเก็ต 3 โดยอยู่ในครอบครัวเดียวกัน 2 ราย จาก 3 ราย) บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 1 ราย ซึ่งผู้ป่วยใหม่ 9 รายอยู่ในภูเก็ต 4 ราย กรุงเทพมหานคร 3 ราย สมุทรปราการ 2 ราย 


“ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,947 ราย พบใน 5 จังหวัดสูงที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,488 ราย ซึ่งอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย ภูเก็ต 213 ราย นนทบุรี 157 ราย ยะลา 113 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 ราย สมุทรปราการ 113 ราย และเมื่อจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน โดยไม่รวมผู้ป่วยที่อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ พบว่า จังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 51.52 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 26.24 ยะลา ร้อยละ 21.15 ปัตตานี ร้อยละ 10.95 และนนทบุรี ร้อยละ 12.50” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอายุตั้งแต่ 0-14 ปี พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึง 26 เมษายน จำนวน 88 ราย ถือเป็นร้อยละ 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด และไม่พบผู้เสียชีวิต ชายและหญิงเท่ากันที่อัตรา 1:1 พบในผู้ป่วยชาวไทยร้อยละ 90 และต่างชาติร้อยละ 10 โดยเฉลี่ยอายุ 0-4 ปี พบร้อยละ 34  อายุ 5-9ปี ร้อยละ 32 และอายุ10-14 ปี ร้อยละ 34 โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้ามากที่สุดร้อยละ 86.4 มีประวัติเดินทางจากต่างประเทศร้อยละ 3.4 ไปสถานที่แออัด ร้อยละ 3.4 และไม่มีข้อมูล ร้อยละ 6.8 พบที่จังหวัดภูเก็ต ยะลาและปัตตานีมากที่สุด ซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ที่ประกอบพิธีทางศาสนา นอกจากนี้พบว่าผู้ป่วยเด็กสัมผัสจากพ่อแม่มากที่สุด ร้อยละ 45 บุคคลอาศัยร่วมบ้าน ร้อยละ 24 ญาติ ร้อยละ 8


“มูลนิธิศูนย์นมแม่ให้ข้อมูลว่า สำหรับแม่ที่ให้นมลูก ซึ่งอาจจะเป็นผู้ป่วยโควิด-19 การติดเชื้อไม่สามารถผ่านทางน้ำนมแม่ได้ ผู้ป่วยจึงให้นมลูกได้ แต่ต้องป้องกันให้ดี ทั้งใส่หน้ากากอนามัยหรืออาจจะใช้วิธีการปั๊มนมแล้วให้ลูกกิน หากไม่มีความจำเป็น ไม่แนะนำว่าจะต้องเปลี่ยนให้ลูกไปกินนมผง เพราะจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และเด็กอาจจะไม่ได้รับภูมิคุ้มกันจากนมแม่” โฆษกศบค. กล่าว 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อดูพฤติกรรมของคนไทย เรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงวันที่ 12-18 มีนาคม และ 30 มีนาคม – 5 เมษายน พบว่า บุคลากรทางการแพทย์ปฎิบัติ ร้อยละ 87.1 เพิ่มเป็น ร้อยละ 87.7 ขณะที่ประชาชนปฏิบัติ ร้อยละ 86.9 ถือว่าลดลงเหลือ 82.4 จะเห็นได้ว่าจากตัวเลขที่ลดลงของประชาชนคือมีหลายคนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ส่วนการล้างมืออย่างสม่ำเสมอ พบว่าประชาชนให้ความสำคัญมากขึ้น โดยบุคลากรทางการแพทย์จากร้อยละ 93 เป็นร้อยละ 97.4 ส่วนประชาชนจากร้อยละ 83.6 เป็นร้อยละ 87.5 การใส่หน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้านและอยู่ในที่ชุมชน พบว่าประชาชนทั่วไปใส่ หน้ากากอนามัยจากร้อยละ 60.7 เป็น ร้อยละ 92.6 และใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน ร้อยละ 70 เพิ่มเป็นร้อยละ 96.8 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่ทุกคนปฏิบัติและร่วมมือดูแลตัวเองอย่างดี 

โฆษกศบค. กล่าวว่า สถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 3,138,190 ราย เสียชีวิต 217,974 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด 1,035,765 ราย เสียชีวิต 59,266 ราย ไทยอยู่ที่อันดับที่ 59 ของโลก ขณะที่ในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชีย พบว่า อินเดียอยู่ที่ อันดับที่ 15 ของโลก สิงคโปร์ อันดับที่ 16 ของโลก ปากีสถาน อันดับที่ 27ของโลก ญี่ปุ่นอันดับที่ 29 ของโลก และเกาหลีใต้ อันดับที่ 35 ของโลก 

“เรื่องนี้จะต้องให้ความสำคัญ ทั้งเรื่องทางชายแดนรวมถึงเรื่องการบิน เพราะต้องพิจารณาว่าสถานการณ์โลกเป็นอย่างไร หากเปิดน่านฟ้าให้คนต่างชาติเข้ามาได้ แม้ไทยจะสถานการณ์ดี แต่สถานการณ์โลกยังไม่ดี มาตรการต่าง ๆ คงยังต้องบังคับใช้อยู่ เพื่อไม่ให้นำเชื้อเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ วันนี้(29 เม.ย.) จะมีเที่ยวบินคนไทยที่ตกค้างกลับจากอินเดีย 189 คน พรุ่งนี้(30 เม.ย.) จากรัสเซีย 15คน ศรีลังกาและมัลดีฟ์ 40 คน และอินเดีย 170 คน โดยรวมผู้ที่เดินทางกลับเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 4-28 เมษายน จำนวน 2,981 คนจาก 22 ประเทศ ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับผ่านจุดผ่านแดนทางบก วานนี้(28 เม.ย.) จากเมียนมา 3 คน มาเลเซีย 364 คน ลาว 2 คน กัมพูชา 3 คน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว  

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว พบประชาชนออกนอกเคหสถาน 589 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน  79 ราย จังหวัดที่ฝ่าฝืนกฎหมายสูงสุดคือกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ปัตตานี สมุทรสาคร ภูเก็ตและสมุทรปราการ.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC

จับตาประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” คลายปมร้อนชายแดน

14 มิ.ย. – จับตาการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” เจรจาลดความตึงเครียดชายแดน โดยฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้ว มุ่งใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ “ภูมิธรรม” หวังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย พร้อมคณะฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยมีนาย Khum Ponnaban อธิบดีกรม Technique of Border Affairs General Department หน่วยงาน State Secretariat of Border Affairs (เทียบเท่ากระทรวง) ของกัมพูชา ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หวังการประชุม JBC จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นมิตรและการรักษาประโยชน์ร่วมของไทยและกัมพูชาให้กลับมาสู่ภาวะปกติ .-สำนักข่าวไทย

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย