fbpx

ศบค.ระบุถ้าไม่ร่วมมือกันยอดโควิดพุ่งแน่

ทำเนียบรัฐบาล 30 ธ.ค.-โฆษก ศบค. เผยยอดติดเชื้อ 250 คน ใน 48 จังหวัด ขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด งดเคาท์ดาวน์ปีใหม่ในที่ชุมชน ย้ำถ้าไม่ร่วมมือ ตัวเลขพุ่งแน่


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้(30 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250 ราย โดยแบ่งดังนี้ ติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ติดเชื้อจากการไม่เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ 1 ราย ติดเชื้อจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศในสถานที่กักตัวของรัฐ 8 ราย ทั้งนี้ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมรวมอยู่ที่ 6,690 ราย หายป่วยแล้ว 4,212 ราย รักษาตัวอยู่ 2,417 ราย เสียชีวิตคงที่ 61 ราย

“สำหรับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นวันนี้ 250 ราย เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 9 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขลดลง ส่วนที่เชื่อมโยงกับจังหวัดระยอง 3 ราย แต่จะมีจำนวนเพิ่มเติมเท่าใด ให้รอรายละเอียดจากกระทรวงสาธารณสุขแถลงช่วงบ่าย มีประวัติไปสถานบันเทิง สถานที่ชุมชน อาชีพเสี่ยง29 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค198 ราย แรงงานต่างด้าว 2 รายผู้ป่วยที่เดินทางจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 8ราย,ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1ราย” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้มีจังหวัดที่มีผู้ติดโควิดรวมแล้ว 48 จังหวัด เพิ่มมาใหม่คือ จ.ระนอง จ.อำนาจเจริญ และจ.ตราด ส่วนจ.ชลบุรี พบติดเชื้อ 108 ราย รอยืนยันการสอบสวนโรค และช่วงบ่ายวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะลงพื้นที่ด้วย

โฆษกศบค. กล่าวว่า วันนี้(30 ธ.ค.) มีประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่องการห้ามชุมนุมการทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 ออกมาบังคับใช้และมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รายละเอียด คือ 1.ห้ามมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนหรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรคทั่วราชอาณาจักร 2. ห้ามชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่รวมคนแออัด เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่ควบคุม เว้นกิจกรรมภายในครอบครัวในเคหสถาน หรือกิจกรรมของทางราชการ 3. ต้องขออนุญาตการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมต่อผู้ว่าฯกทม. หรือผวจ.ในพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดหรือพื้นที่เฝ้าระวัง เว้นกิจกรรมภายในครอบครัวในเคหสถาน หรือกิจกรรมของราชการ

“ถ้าเราคุยกันไม่ได้ ขอความร่วมมือกันไม่ได้ ไม่รักษาระยะห่าง ยังคงรวมกลุ่ม ไม่สวมหน้ากากอนามัย แทนที่จะเคาน์ดาวน์ อาจเป็นเคาน์อัพ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น เราไม่อยากเห็นภาพล็อกดาวน์แบบนั้น ดังนั้นประชาชนต้องรวมมือ” น.พ.ทวีศิลป์กล่าว


ส่วนกรณีบางพื้นที่ยังยืนยันจัดกิจกรรมเคาวน์ดาวน์โดยไม่ยกเลิกจะเพิ่มความเสี่ยงหรือไม่นั้น โฆษกศบค. กล่าวว่า เป็นสิงที่กังวลใจ ดังนั้น เพื่อเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติตามประกาศข้างต้นอย่างเค่งครัด

เมื่อถามว่าประชาชนที่เดินทาง ข้ามจังหวัด ไปยังจ.สมุทรสาคร จ.ระยอง ซึ่งเป็นพื้นี่ควบคุมสูงสุด ต้องกลับมากักตัวหรือไม่ น.พ. ทวีศิลป์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับจังหวัดที่พักอาศัยว่ามีเงื่อนไข กติกา ประกาศอย่างไร ต้องปฎิบัติตาม ดังนั้น ดีที่สุดคือการอยู่บ้านกับครอบครัว งดการเดินทาง

โฆษกศบค. กล่าวว่า ตัวเลขที่สูงขึ้นรายวัน ทำให้ทีมแพทย์และศบค.ไม่สบายใจ ดูไม่เข้ากับบรรยากาศที่จะฉลองปีใหม่ แต่ประชาชนต้องเผชิญความจริง ซึ่งในการประชุมช่วงเช้าที่มีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม ตลอดจนรมว.สาธารณสุข อดีต รมว.สาธารณสุขยืนยันว่าต้องบอกความจริงกับประชาชน ไม่ปกปิด ต้องเน้นย้ำให้รัฐ เอกชน ประชาชนต้องร่วมมือกัน

“ตอนนี้เราทราบว่ามีแหล่งแพร่เชื้อที่ไม่ปฏิบัติตามที่เราขอร้อง มีสถานที่ลักลอบเปิดเล่นพนันจนเป็นแหล่งกระจายเชื้อ กลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอในการรับผิดชอบตัวเอง ผู้สูงอายุเข้าไปเล่นมากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูแลตัวเองดี กลับทำให้เป็นตัวเลขที่สูง เป็นการทำงานที่อึดอัดใจ ประชาชนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ช่วยกัน ไม่เช่นนั้นตัวเลขอาจพุ่งขึ้น ทุกคนต้องช่วยกัน โดยเฉพาะช่วงหยุดปีใหม่ ขอให้ทุกคนไตร่ตรอง มีสติ ทุกนาที ดูแลป้องกันตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเดินทางก็ไม่ต้องเดินทาง ขอความร่วมมือทุกคนร่วมมือกัน 100 เปอร์เซนต์” น.พ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ในที่ประชุมศบค.ชุดเล็กรายงานว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงการเดินทางสายการบิน โดย 6 สายการบินให้ความร่วมมือเปลี่ยนตั๋วโดยสารได้ ได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม อนุญาตให้เปลี่ยนเส้นทางบิน หรืออื่น ๆ ขอให้ติดตามสอบถามจากสายการบิน หรือติดตามรายละเอียดทางเพจศูนย์ข้อมูลโควิด19.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ