กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – กรมสรรพากรสนับสนุนการทำธุรกรรมดิจิทัล เดินหน้าคืนภาษีนิติบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์ 1 พ.ค.นี้
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป กรมสรรพากรพร้อมให้บริการคืนเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมดิจิทัลให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกหนึ่งช่องทางของผู้เสียภาษีในการขอรับเงินคืนนอกจากการรับคืนเป็นเช็คหรือการรับโอนผ่านบัญชีธนาคาร
สำหรับการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ 1.เป็นนิติบุคคลที่มีพร้อมเพย์ 2. มีเงินคืนภาษีไม่ถึง 100 ล้านบาท 3. ไม่เปลี่ยนแปลงสถานะนิติบุคคล นิติบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและได้สมัครลงทะเบียนพร้อมเพย์แล้ว กรมสรรพากรจะพิจารณาคืนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกไว้กับเลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก ส่วนนิติบุคคลอื่นที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น กรมสรรพากรจะยังคืนเป็นเช็ค หรือโอนผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งเป้าหมายในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการคืนเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์แทนการคืนเงินเป็นเช็คหรือโอนผ่านบัญชีธนาคารทุกราย เพื่อสนับสนุนนโยบายการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ลดต้นทุนการทำธุรกรรมทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยในการให้บริการ โดยช่องทางการลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์ เพียงเตรียมเอกสารและติดต่อธนาคารที่บริษัทมีบัญชี
นางสมหมาย กล่าวว่า การคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์จะช่วยอำนวยความสะดวก และเพื่อความปลอดภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อลดการติดต่อกันในระหว่างการทำธุรกรรม เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ทุกคนอยู่ที่บ้าน สนับสนุนแนวคิด “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ของรัฐบาลต่อไป” ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rd.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 หรือที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย