ภูเก็ต 23 เม.ย.-“อนุทิน” ย้ำไม่ให้คุณให้โทษกับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูง เชื่อทุกคนทำงานเต็มที่ มั่นใจหลังปลดล็อก ไทยจะเป็นประเทศต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวและนักลุงทุนเลือกเดินทางมา เพราะมั่นใจในความปลอดภัย ด้านผู้ว่าฯ ภูเก็ต ยืนยันบุคลากรทุกคนทุ่มเททำงานเต็มขีดความสามารถ มุ่งรักษาผู้ป่วยทุกคน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยได้ให้กำลังใจ การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ยังคงให้การรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรโน 2019 (โควิด-19) จำนวน 12 คน ใน 4 คนมีอาการหนัก สำหรับภาพรวมในจังหวัดภูเก็ตขณะนี้ มีผู้ป่วยรวมทุกโรงพยาบาลรัฐและเอกชน จำนวน 45 คน
นายอนุทิน ได้ร่วมประชุมเทเลคอนเฟอร์เรนท์ไปยังทุกโรงพยาบาลในเขต 11 พื้นที่ภาคใต้ โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์การรับมือของจังหวัดภูเก็ต ในข่วง 111 วันที่ผ่านมา ยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์ได้ทำงานหนักตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2563 บุคลากรทุกคนทุ่มเททำงานหนักเต็มศักยภาพเต็มขีดความสามารถมาโดยตลอด จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยสะสม 196 คนแรกเมื่อปลายเดือนมีนาคม จากนั้นจำนวนค่อย ๆ เพิ่มขึ้นประมาณช่วงเดือนมีนาคม ช่วงที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จังหวัดมีมาตรการในการดำเนินการหลายกรณี จนปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มที่ลดลง อันเป็นผลสืบเนื่องจากการได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสและค้นหาเชิงรุก
นายภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า เป้าหมายของสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้เร่งขับเคลื่อน “โครงการภูเก็ตเมืองปลอดเชื้อปลอดโรคปลอดภัย” มีเป้าหมายจะต้องกลับมาใช้ชีวิตด้วยปกติแบบ new normal ภายใต้การลดความเสี่ยงของสถานที่ประกอบการ สถานที่สาธารณะ หากจะต้องคลายล็อก จะพิจารณาเป็นรายตำบล ต้องมีกระบวนการขออนุญาตก่อนที่จะมีการเปิดกิจการใดใด โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดูแล นอกจากนี้เป้าหมายสำคัญ คือ การแบ่งโซนตามความเสี่ยง จัดการทำแอปพลิเคชั่นติดตามตรวจสอบประชาชนและนักท่องเที่ยว ตลอดจนการสร้างกติกาใหม่ข้อตกลงในการปฏิบัติตัวของประชาชนและนักท่องเที่ยว
“อย่างไรก็ตาม สาธารณสุขจังหวัด มองว่าภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว หากไม่รีบเปิดก็จะเกิดความเสียหาย แต่หากเปิดก็ต้องมีความรอบคอบเรื่องของความปลอดภัย จึงต้องขับเคลื่อนตามโครงการและแผนที่ได้วางไว้ เมื่อมีคำสั่งคลายล็อก สามารถ ขับเคลื่อนได้ทันที” นายภัคพงศ์ กล่าว
ด้ายนายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ต เป็นความตั้งใจที่ต้องการเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ แต่เมื่อลงพื้นกลับได้รับกำลังใจจากเจ้าหน้าที่กลับมามากกว่า และยังได้เห็นความพร้อมเพรียงของเจ้าหน้าที่ ทำให้มีความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่มีศักยภาพที่จะรับมือกับโควิด-19 ได้ดี ทำให้มั่นใจว่าเราจะผ่านไปได้ด้วยดี ประสบความสำเร็จ
นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า การที่หลายจังหวัดพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก เป็นเพราะตรวจและพบได้เร็ว ไม่ใช่ว่าเป็นการทำงานที่บกพร่อง ไม่มีการมาให้คุณให้โทษ การทำงานของทุกคน เห็นได้ว่ามุ่งหมายที่จะรักษาให้ผู้ป่วยหาย เราทำได้ดีกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ผู้ป่วยกว่า 90% กลับบ้านเป็นปกติ มีผู้เสียชีวิตในสัดส่วนที่น้อย และขอย้ำว่าไทยดูแลสถานการณ์มาเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าควบคุมได้แน่นอน และช่วงเวลาต่อจากนี้ จะเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านไปช่วงหนึ่งที่เรียกว่าก้าวข้ามจุดเปลี่ยนผ่าน เราต้องหากลยุทธ์ที่จะอยู่กับโควิด-19 ยอมรับว่าไม่สามารถล็อกประเทศแล้วห้ามทุกอย่าง รวมถึงไม่สามารถมีข้อจำกัดว่าไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ย้ำว่าไม่ใช่วัตถุประสงค์ แต่ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อมีการปลดล็อก หรือกลับมาสู่สังคมปกติแบบใหม่ที่ประชาชนจะรับสภาวะกับการระบาดของโรคอย่างไรจนกว่าจะมีวัคซีน ในเวลานี้ประชาชนทุกคนมีความรู้ความเข้าใจกันกับโรคนี้เป็นจำนวนมาก มั่นใจว่าหลังจากนี้จะรับมือได้
“โควิด-19 อาจจะชนะมาสิบทิศ แต่มาแพ้บุคลากรทางการแพทย์ของไทย ซึ่งเป็นทิศที่ 11 หลายเรื่องสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยทำได้ดี และเป็นประเทศเดียวในโลกที่บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ในสถานการณ์ที่ผู้คนพอใจและมีความพร้อมที่จะให้การดูแลรักษา และมั่นใจว่าหลังจากนี้ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว นักลงทุนเข้ามาลงทุน เพราะเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมั่นใจว่าความพร้อมเมืองไทย หลังโควิด-19 เราจะมีอนาคตของประเทศที่สดใสอย่างแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย