fbpx

คปภ. คลอดมาตรการ “พักการผ่อนชำระหนี้ ค่าเสียหายเบื้องต้น”

กทม. 17 เม.ย.- เลขาธิการ คปภ. ประชุมทางไกลผ่านทางจอภาพ สำนักงาน คปภ.สามจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมคลอดมาตรการ “พักการผ่อนชำระหนี้ ค่าเสียหายเบื้องต้น” บรรเทาความเดือดร้อนช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 





เลขาธิการ คปภ. ประชุมทางไกลผ่านทางจอภาพ สำนักงาน คปภ.สามจังหวัดชายแดนใต้ • กำชับเรื่องการดูแลสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยของประชาชน พร้อมคลอดมาตรการ “พักการผ่อนชำระหนี้ ค่าเสียหายเบื้องต้น” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 


ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 ไปตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้ พบว่า มีจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด -19 เป็นจำนวนมาก สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เอกชน และพนักงาน คปภ. รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ด้านประกันภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ จึงได้จัดประชุมทางไกลผ่านจอภาพ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ระหว่างคณะผู้บริหาร คปภ. ส่วนกลาง ผู้อำนวยการภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 8 (สุราษฎร์ธานี) ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) และผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมอบนโยบายด้านประกันภัยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยกำชับให้ผู้อำนวยการภาค กำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัด พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ติดตามการปฏิบัติงานตามประกาศ คำสั่ง ระเบียบต่างๆ ของสำนักงาน คปภ. เช่น เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ได้ออกประกาศ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต/วินาศภัย และธนาคาร ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563 หรือ ประกาศการขายประกันเฉพาะกิจ เพื่อแก้ปัญหาในทางปฏิบัติในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)






ทั้งนี้ จากสภาพปัญหาและผลกระทบเกี่ยวกับลูกหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้นที่ต้องชำระหนี้ให้กับกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ มีข้อจำกัดในการชำระหนี้ดังกล่าว อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สำนักงาน คปภ. จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือ โดยเลขาธิการ คปภ. ได้ลงนามในระเบียบสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการขอผ่อนชำระหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้นในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนหรือผลกระทบในการดำรงชีพของลูกหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้น และเพื่อให้ลูกหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้นสามารถวางแผนการจัดการค่าใช้จ่ายระหว่างเดือนที่ยังคงมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับผู้ที่ต้องชดใช้เงินที่มีการทำสัญญาผ่อนชำระหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้น โดยให้สิทธิลูกหนี้ที่ได้ทำสัญญาผ่อนชำระหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้นไว้แล้วสามารถพักการผ่อนชำระหนี้ โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 

ส่วนลูกหนี้ที่ทำสัญญาผ่อนชำระหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้นกับกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 จะได้รับสิทธิขยายระยะเวลาชำระหนี้ในงวดแรกออกไปอีก 6 เดือน นับแต่วันที่ทำสัญญา


“มาตรการพักการผ่อนชำระหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นมาตรการล่าสุดของสำนักงาน คปภ. ในการเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นผลจากข้อเสนอแนะที่ได้จากการสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน โดยสำนักงาน คปภ.ภาค/จังหวัดที่ดูแลพื้นที่ทางภาคใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งสำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยอย่างยิ่ง จึงได้มีการติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนสวัสดิภาพของบุคลากรและประสิทธิภาพในการดูแลสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยของประชาชน โดยมาตรการพักการผ่อนชำระหนี้ค่าเสียหายเบื้องต้นนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2563 และใช้กับลูกหนี้ฯ ทั่วประเทศ” เลขาธิการ คปภ.กล่าวในตอนท้าย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง